รีวิว 2023 BMW S1000RR อัพเกรดใหม่ ใส่เทคโนโลยี M1000RR พร้อมปะทะสปอร์ตคลาสพันทุกค่าย

0
BMW S1000RR

2023 BMW S1000RR ได้รับการอัพเกรดทั้งคัน ตั้งแต่ภายนอกไปจนภายในเครื่องยนต์ หลายอย่างมาจาก M1000RR ยกระดับให้เร็วขึ้น ทันสมัยขึ้น การทดสอบในกิจกรรม BMW Motorrad Track Day ที่สนามช้างฯ สนามแข่งระดับโลกจึงตอบโจทย์ที่จะรีดพลังรอบด้าน มาชมกันเลย

S1000RR

มีอะไรใหม่ในโมเดล 2023

– ชุดแฟริ่งใหม่ แอร์โร่ไดนามิกส์ดีขึ้น
– แฟริ่งด้านหน้าเปลี่ยนใหม่ทั้งด้านหน้าด้านข้าง
– มี Winglets หรือปีกใหญ่ขึ้นสร้างแรงกดในความเร็วสูงได้มากขึ้น (300 กม./ชม. จะมีแรงกดที่ 17.1 กก.)

– Windscreen high ชิลด์บังลมทรงบับเบิ้ลสูงกว่าเดิม ยกมาจาก M1000RR ปี 2022

– แบตเตอรี่เป็น Lithium Ion น้ำหนักเบา
– ช่องชาร์จ USB ที่ใต้เบาะคนซ้อน

– ที่ยึดแผ่นป้ายทะเบียนเล็กลงและถอดง่าย
– สวิงอาร์มหลังเปลี่ยนใหม่
– แกนล้อหลังและตัวยึดให้ถอดล้อหลังง่ายและเร็วขึ้น

– คาลิเปอร์เบรกหน้าใหม่ยกมาจาก M1000RR ปี 2022 ทำสีดำพร้อมโลโก้ BMW
– แชสซีปรับใหม่ทำให้องศาคอและระยะฐานล้อต่างจากโมเดลเดิม
– มีเบาะนั่งคนซ้อนและฝาครอบเบาะคนซ้อนให้มาด้วยกันเลย (มีออฟชั่นสำหรับติด GPS หรือ Action Cam ได้)

– ระบบ Cruise Control
– Heated Grips

– เครื่องยนต์มีกำลังเพิ่มขึ้น 3 แรงม้าเป็น 210 แรงม้า-+6

– ฝาสูบทางเดินไอดีแบบเดียวกับ M1000RR ปี 2022 แต่การผลิตต่างกัน

– Air Box ก็จาก M1000RR ปี 2022

มี Steering angle sensor

Steering Angle Sensor

Steering Angle Sensor เซ็นเซอร์ตัวใหม่ ไฮไลท์ของรุ่น

เซ็นเซอร์ที่เพิ่มเข้ามาในโมเดล 2023 ติดตั้งอยู่ใต้แผงคอหรือใต้ไฟหน้าด้านซ้าย ปรับใช้ใน Riding mode Pro และตั้งค่า ABS Pro เป็น Slick เซ็นเซอร์นี้จะวัดการหักของแฮนด์กับองศารถที่เอียง เมื่อจะเข้าโค้งเซนเซอร์นี้จะทำงานร่วมกับระบบ Brake Slide Assist คือการเบรกสไลด์เข้าโค้ง

เข้าโค้ง เงื่อนไขคือต้องลดความเร็วก่อนจะเข้าโค้ง เช่นจาก 140 กม./ชม. ลงมาที่ 80 กม./ชม คือลดต่ำกว่า 50 กม./ชม. ในช่วง 5.5 millisecond (ประมาณว่าเร็วกว่าเรากระพริบตา) และใช้เบรกหลังด้วย ระบบจะรักษาระดับการเอียงสไลด์ของรถที่ 8-12 องศา ถ้ามากกว่าระบบจะเข้ามาช่วย

ออกโค้ง จะทำงานร่วมกับระบบ Slide Control เวลาเราเปิดคันเร่งเพื่อออกจากโค้งในขณะรถเอียง ระบบจะยอมให้รถสไลด์ได้มากกว่าปกติ เหมือนโหมด Enduro Pro ใน GS ที่ยอมให้เราเล่นกับรถได้มากขึ้น แต่ระบบนี้จะระเอียดกว่าเพราะมีเซนเซอร์คอยวัดและปรับตั้งได้หลายแบบให้สไลด์มากน้อยจัดได้ตามใจชอบ

Quick Shifter อัพเกรดใหม่ ได้ทุกจังหวะ

ระบบ Quick Shifter ในโมเดลก่อนจะอ่านที่การทำงานของคันเร่ง คือถ้าเรากำลังเร่งจะไม่สามารถลดเกียร์ได้เช่นกันถ้าเรายกคันเร่งเราก็เพิ่มเกียร์ไม่ได้เช่นกัน แต่ในโมเดล 2023 นี้เซ็นเซอร์จะอ่านที่ Speed Sensor กับ Toque เพราะฉะนั้นไม่ว่าคันเร่งจะอยู่ตำแหน่งไหนก็เปลี่ยนเกียร์ได้ ไม่ว่าจะเปิดคันเร่งเราก็ลดเกียร์ได้ หรือปิดคันเร่งเราก็เพิ่มเกียร์ได้

หน้าจอ TFT อัพเดทซอฟแวร์ใหม่

จอ TFT อัพซอฟแวร์ใหม่ของโมเดล 2023 คือถ้าเราเลือกใช้ Theme ของหน้าจอหรือ Display อะไรอยู่พอดับเครื่องหรือปิดสวิทซ์กุญแจ เมื่อเปิดสวิทซ์กุญแจอีกครั้ง Display ที่เราเลือกไว้จะยังอยู่แบบนั้นจะไม่รีเซทกลับไปเป็น Display เริ่มต้นหรือ Home อย่างที่เป็นในโมเดลก่อนหน้า และมีลูกเล่นคือไฟบอก Red Line จะอยู่รอบต่ำตอนเครื่องยังเย็นอยู่ และจะค่อยๆ ขยับสูงขึ้นเองเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์สูงขึ้น

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่ ท่วมคัน

มีโหมดขับขี่ 4 โหมดคือ Rian, Road, Dynamic และ Race + Riding Modes Pro 3 โหมดให้ตั้งค่า Engine, Engine Bake, Traction, Wheeli, ABS และ Damping ของช่วงล่าง มีระบบ Launch ระบบ Pitlane Limiter

มีระบบ DTC (Dynamic Traction Control) ที่ปรับเพิ่มหรือลดได้ ระบบ Brake-Slide Control ระบบ DDC (Dynamic Damping Control) ระบบ BMW Motorrad Race ABS และ ABS Pro ระบบ HSC (Hill Start Control) ระบบ Shift Assist Pro) และที่เพิ่มมาคือระบบ Cruise Control

ลองขี่กันเลย สเปคท้ายบทความ

การทดสอบ S1000RR โมเดล 2023 ครั้งนี้จัดในกิจกรรม BMW Motorrad Trackday ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ BMW Motorrad Thailand จัดให้ลูกค้าได้มาร่วมขี่ในสนามระดับโลกกับจำนวน Session ขี่ 5 Session เยอะจนต้องบอกว่าขี่กันให้เอียนขี่กันให้หมดแรงไปข้างนึงเลย

ไฮไลท์คือการทดสอบอย่างที่บอกไปในตอนต้น ทั้ง Influencer หรือสื่อฯ ที่ในยุค พ.ศ.นี้ต้องบอกว่า 2 สรรพนามนี้หน้าที่เดียวกันแยกกันไม่ออกแล้ว จะได้ขี่กันคนละ 5 Seesion เหมือนกัน กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้า ผมเองได้ลงใน Group B ซึ่งนานๆ ทีที่จะได้ลงกรุ๊ปหลังแบบนี้ แต่ผมชอบนะไม่ต้องรีบยัดร่างอ้วนๆ ลงในชุดหนังให้เหนื่อยหอบ(ช้าๆ ก็เหนื่อยอยู่ดี ฮ่า) และไม่ต้องลุ้นว่าจะปวดท้องเข้าห้องน้ำในตอนเช้า

นอกเรื่องแล้ว มาขี่เลยผมเริ่มขี่ในโหมดขี่ Dynamic เหมือนวอร์มตัวเองก่อนแต่รถกับยางพร้อมแล้ว อ่อ! ยางที่ใส่รถทดสอบครั้งนี้คือ Bridgestone Battlax R11 นะครับแต่รถที่ขายอาจจะไม่ใช่ยางรุ่นหรือยี่ห้อนี้

ท่านั่งขี่เทียบกับสปอร์ตเรพลิก้าคลาส 1000 ด้วยกัน S1000RR ถือว่านั่งสบายครับขยับตัวง่าย ออกจากพิทเลนผมก็บวกความเร็วเลย รถพุ่งไปเร็วสมกับกำลังเครื่องยนต์ที่มี ในรอบที่ 2 ผมเพิ่มความเร็วได้มากกว่ารอบแรก ก็พบว่าบางครั้ง Quick Shifter ลดเกียร์ไม่ลงตามที่คิดและเบรกยังไม่คุ้นมือดี ซึ่งน่าจะเป็นที่คนมากกว่า

ผมต้องใช้คลัทช์ช่วยเพื่อลดเกียร์ แต่การใช้คลัทช์ในการลดเกียร์ก่อนเข้าโค้งอาจเป็นความเคยชินและชอบของผมเองด้วย พอระบบติดนิดนึงมือก็ใช้คลัทช์โดยอัตโนมัติ อาจจะด้วยจังหวะลดเกียร์ของผมเองที่ยังไม่เนียนหรือสัมพันธ์กับระบบอิเล็กทรอนิกส์นัก แต่ก็พบว่าคลัทช์นุ่มมือมากบีบเหนี่ยวคอนโทรลได้เพลินเลย จบรอบแรกแบบไม่เหนื่อยอย่างที่คิดไว้ รถขี่สนุกมากจนมาต่อใน Seesion ที่ 2 กันเลย

ใน Session นี้ผมเปลี่ยนมาขี่ในโหมด Race และก็ขี่โหมดนี้จนจบวัน กลายเป็นว่าผมชอบโหมด Race มากกว่าโหมด Dynamic ซะอีก คันเร่งไวขึ้น ทุกอย่างไวขึ้น ความเร็วแรงมาพร้อมกับอาการของรถที่มากขึ้นสนุกขึ้น กลับเป็นจุดที่ผมชอบในการขี่ในสนามแข่งแบบนี้

แต่ระบบ Wheelie Control ก็ยังทำงานเหนียวแน่น ไม่ว่าจะลากรอบออกจากโค้งยังไงหน้าก็เหินจากพื้นกระจิ๊ดนึงไม่น่าจะถึงหนึ่งนิ้ว ฮ่า ไม่ค่อยฟินแต่ทำให้เวลาต่อรอบเราดีและคุมรถได้ง่าย ผมกับระบบ Quick Shifter ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมลองเรื่องที่เขาอัพเกรดมาผมใช้คันเร่งงึกๆ งักๆ หลอกๆ บ้างยังลดหรือเพิ่มเกียร์ได้ เข้าท่าดี

ความเร็ทางตรงโค้ง 1 ไปโค้ง 3 สนามช้าง ผมทำได้ราวๆ 290 กม./ชม. ตามเรือนไมล์ที่เห็น แต่ถ่าย GoPro ลงในคลิปรีวิว และแคปมาลงให้ดูได้จังหวะที่ 289 กม./ชม. ต้องบอกว่าเป็นรถที่อัตราเร่งดีงามมาก ขึ้นไว และจากการอัพเกรดแฟริ่ง องศาคอและฐานล้อทำให้รถนิ่งสนิทกอปรกับ Winglets ที่สร้างแรงกดได้มากกว่าเดิมด้วย

ที่สำคัญชิลด์บังลมหน้าหรือ Windscreen แบบบับเบิ้ลที่ยกมาจาก M1000RR มันเจ๋งกว่าเดิม ช่วยบังลมและเงยหัวมองทางได้ดีในขณะหมอบขี่ แม้ในบางรอบที่ผมติด GoPro ห้อยคอมาด้วยคือไม่สามารถก้มหมอบได้สุดการบังลมปะทะยังทำได้ยอดเยี่ยม ช่วงล่างกึ่งไฟฟ้าก็ทำงานได้ดีจัด ระบบต่างๆ ของรถฉลาดมาก

2023 BMW S1000RR มีจำหน่าย 2 สี 2 ราคา สีดำ Black Storm Metallic ราคา 984,000 บาท และสีแดง Racing Race (Style Passion) ราคา 999,000 บาท

สำหรับผมที่ไม่ได้ขี่สปอร์ต 1000 ในสนามแข่งขันมาเกือบปี ทำเวลาต่อรอบได้ประมาณ 1:50 +/- นิดหน่อยประมาณนี้ กับสุภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงนัก ก็สามารถขี่ S1000RR โมเดล 2023 เดิมๆ ได้สนุก ทำเวลาได้ดี ดีกว่าจะลงไปขี่เยอะเพราะรู้สภาพร่างกายตัวเอง เหนื่อยน่ะเหนื่อยอยู่แต่ไม่ได้เหนื่อยแบบไม่ไหวรวมถึงอาการล้าที่คิดว่ามาเร็วก็ไม่เร็วอย่างที่คิด ด้วยเพราะรถขี่และควบคุมได้เบาแรง สนุก ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่ทุกระบบทำงานผสานกันเนียนเรียบฉับไว

แต่ Session บ่ายหลังมื้ออาหารกลางวันไปแล้วต้องยอมจำนนต่อสังขาน ขี่เร็วได้ไม่เต็มรอบพักบ้างเร่งบ้าง(จริงๆ รอบเช้าก็เป็น ฮ่า) ลองขี่เลี้ยวเข้าโค้งแบบไม่เร็วนักไม่จัดท่าทำเหมือนขี่เที่ยว เลี้ยวง่ายมาก ไปตามสั่งเลยขี่สบายรวมถึงพลังเบรกนี่เหลือเฟือ โดดเด่นในสปอร์ตคลาสพันที่ทุกค่ายมีไว้แสดงสมรรถนะเทคโนโลยีที่เป็นหน้าเป็นตาของค่าย และ S1000RR โมเดล 2023 ก็ทำได้สมกับศักดิ์ศรีของแบรนด์ นี่ถ้าเอามาใส่ท่อสูตรเร่งรอบออกตัวยัดเกียร์มันส์เร้าใจแน่นอน ใครชอบขี่สปอร์ตเที่ยวเล่นก็จัดได้เลย S1000RR พัฒนาทุกอย่างสมราคาพะยี่ห้อใบพัดสีฟ้า ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

สเปค S1000RR โมเดล 2023

เครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์วไทเทเนียม
กระบอกสูบ x ช่วงชัก80 มม. x 49.7 มม.
ปริมาตรความจุกระบอกสูบ999 cc.
กำลังสูงสุด154 kw (201 แรงม้า) ที่ 13,750 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด113 Nm ที่ 11,000 รอบ/นาที
อัตราส่วนกำลังอัด13.3:1
โช้คอัพหน้าUpside-Down ขนาด 45 มม. ปรับ Compression , reboud และ preload
โช้คอัพหลัง“WSBK” Aluminium swing arm, full floater pro ปรับ compression , rebound damping และ preload
เบรกหน้าดิสก์คู่ขนาด 320 มม. หนา 4.5 มม. คาร์ลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
เบรกหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
ABS– ABS BMW Motorrad Race ABS (part-integral), Brake-Slide-Asist
– ABS Pro settings for RAIN, ROAD, DYNAMIC, RACE mode
ถังน้ำมันเชื้อเพลิง16.5 ลิตร
ระยะฐานล้อ1,457 มม.
น้ำหนักตัวรวมของเหลว197 กิโลกรัม

รีวิว R1250RT
คลิปรีวิว BMW R1250RT Option 719
คลิปรีวิว R18 Transcontinental
บทความรีวิว R18 Transcontinental
บทความรีวิว BMW R18 First Edition
คลิป รีวิว BMW R18
คลิปรีวิว BMW F850GS
คลิป ริวิว F750GS
คลิปทดสอบ BMW R1250GSA คลิก
คลิป เรียน California Superbike School คลิก
บทความเรียน California Superbike ที่สนามช้างบนรถ S1000RR
ทดสอบ ขี่ BMW C400X ออกทริป คลิก
ทดสอบ 2019 BMW R1250GSA คลิก
ทดสอบ 2018 BMW F850GS / F750GS คลิก
คลิปทดสอบ BMW C400X คลิก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่