รีวิวทดสอบยาง Pirelli Diablo Superbike ใหม่ ไขรหัส SC ไหนเหมาะกับใคร

0

Pirelli Diablo Superbike ยางสำหรับการแข่งขันรุ่นล่าสุดรหัส SCX และโครงสร้างกับขนาดหน้ายางใหม่ 125/70-17 กับ 200/65-17 กดเวลาทุบสถิติเร็วที่สุดในประเทศไทย พร้อม Diablo Supercorsa SC V3 หรือ “สายฟ้า V3” ใหม่

Pirelli Moto จัด Diablo Superbike Launch เปิดตัวยางที่ใช้แข่งขันโดยเฉพาะ รุ่นใหม่ สเป็คใหม่ และยางลายสายฟ้า V3 พร้อมกับกิจกรรม Pirelli Track Day ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ระหว่างวันที่ 16 -17 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเปิดตัวยาง Diablo Rosso Scooter SC “ยางซิ่ง” ลายสายฟ้า สำหรับรถสกู๊ตเตอร์ที่ต้องการการยึดเกาะที่เหนือกว่า 

ยางที่ขาย ก็คือยางแข่ง WorldSBK

Diablo Superbike ล่าสุดนี้ ที่สะดุดตาที่สุดคือขนาดของหน้ายางและแก้มยาง 125/70R17 และ 200/65R17 โดยก่อนจะมีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งนี้ทาง Pirelli ได้ใช้ในรายการแข่ง WorldSBK มาก่อนแล้ว รวมถึงส่งให้ทีมแข่งยามาฮ่าในประเทศไทยใช้ และ ชิพ นครินทร์ ก็สามารถทำเวลาต่อรอบเป็นสถิติเร็วที่สุดของสนามช้างของไทย (ไม่รวมรายการ MotoGP และ WorldSBK)

ไหนๆ ก็พูดถึงเวลาต่อรอบนสนามช้างแล้วก็มาดูกันหน่อยว่าใครทำไว้เท่าไหร่ ด้วยยาง Pirelli Diablo Superbike รหัส SCX  

ไขรหัส SCX สเป็คเพื่อใช้แข่งในสนามช้างฯ

การพัฒนาของยางทั้ง Diablo Superbike และ Diablo Supercorsa SC V3 จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ลักษณะโครงสร้าง เนื้อยาง รูปทรง ขนาด และ ลายยางสายฟ้า(เฉพาะ Diablo Supercorsa SC V3)

ยาง Diablo Superbike ตัวใหม่จะมีเนื้อยางพิเศษเพิ่มขึ้นมานั้นคือ SCX ที่เป็นยางเนื้อแบบเดียวกันที่ Alvaro Bautista ใช้ในการแข่งขัน Pre-Qualifier ในรายการ WorldSBK ในสนามบุรีรัมย์อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และได้สร้างสถิติเวลาดีที่สุดของสนาม ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นยางทดสอบ SCX รหัส X1428

“พี่โก้ Showpow” บอสใหญ่ Pirelli Thailand กล่าวเปิดงาน

ยาง Diablo Superbike SCX ตัวใหม่ที่ Pirelli เปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการคือสเปคเดียวกับ X1428 ในปี 2019 ที่ออกแบบเพื่อสนามที่มีอุณหภูมิสูง และมีลักษณะพื้นสนามละเอียดเหมือนกับ สนามบุรีรัมย์อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต

Diablo Rosso Scooter SC “ยางสายฟ้า เนื้อนิ่ม สำหรับสกู๊ตเตอร์ รถขนาดเล็ก

ซึ่งเนื้อยางของ Diablo Superbike SCX จะเป็นยาง Extra Soft ใกล้เคียงกับยาง Superpole แต่จะเสริมโครงสร้างและพัฒนาให้ยางสามารถใช้แข่งขันได้จนจบการแข่งขัน แตกต่างจากยาง Superpole ที่ใช้ได้เพียง 1-2 Lap เท่านั้น จะเรียกได้ว่าเอาความหนึบของ Superpole มารวมกับความทนของ SC0 ก็ว่าได้

นอกจากเนื้อยางใหม่ที่ใช้ในการแข่งขันแล้ว อาวุธลับอีก 1 อย่างของยางจาก WorldSBK คือไซส์ยางที่อัพเกรดใหม่ จากยางหน้าเดิมที่เป็นขนาด 120/70R17 และยางหลังขนาด 200/60R17 เป็นเพิ่มขนาดยางหน้า เป็น125/70R17 และยางหลังเพิ่มเป็น 200/65R17

ทำไมต้องอัพไซส์และเปลี่ยนโครงสร้างยางใหม่ทั้งหมด

ซึ่งเหตุผลที่ต้องเพิ่มขนาดยางทั้งหน้าและหลัง เพื่อรองรับเทคโนโลยีของ Superbike และสามารถเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้สูงขึ้นถึงแม้ว่ากฎการแข่งขันของ FIM Superbike1 จะจำกัดการปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็ตามยางหน้า 125/70 จะมีขนาดโดยรวมใหญ่ขึ้น 4% และ สูงขึ้นประมาณ 3มม. พื้นที่บริเวณขอบยางมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มองศาการเลี้ยวเข้าโค้งได้ลึก และ สามารถใช้ความเร็วในโค้งได้สูงขึ้น ส่วนยางหลังขนาด 200/65 จะเป็นยางที่ปรับรูปทรงใหม่ (new profile) ที่จุดสูงสุดของยางจะสูงกว่า 200/60 ถึง 5 มม.โครงสร้างของยางไซส์ใหม่ก็ถูกปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน เพื่อให้ยางสามารถรองรับแรงบิด กระจายแรงเสียดทานและช่วยให้สามารถตอบสนองคันเร่งหรือการควบคุมของผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น

ยางสำหรับ 600 ซีซี โดยเฉพาะก็มา

การแข่งขัน WorldSSP (Supersport 600) ก็มีการเปลี่ยนแปลงขนาดยางเช่นกัน โดยจะเป็นการเพิ่มขนาดยางหลังจากเดิม Diablo Supercorsa SC 180/60 R17 เป็น Diablo Superbike 190/60 R17 แน่นอนว่าขนาดยาง 190/60 R17 ไม่ใช่ขนาดที่แปลกใหม่ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนให้รองรับกับล้อที่มีขนาดกว้าง 5.5” นิ้ว ตรงกับขนาดล้อที่ใช้ในการแข่งขัน WorldSSP และยางสเป็คใหม่นี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงกติกาการแข่งขันให้ WorldSSP สามารถ ใช้ยาง Diablo Superbike (ยางสลิ้ก)ในการแข่งขันได้ แทนยางที่ต้องผ่านมาตรฐาน DOT(ยางมีดอก) หรือ Diablo Supercorsa SC ที่ใช้ในแข่งขันตลอดหลายปีที่ผ่านมายางขนาดใหม่จะใช้เทคโนโลยีการผลิต โครงสร้าง และลักษณะของรูปทรงยางไปในทิศทางเดียวกับยางที่ใช้แข่งในรุ่นใหญ่อย่าง WorldSBK

เปรียบเทียบ SC3(กราฟเหลือง) เดิม และ SC3 ใหม่(กราฟแดง)
SC3 สเป็คแข่งที่ไม่ต้องใช้ผ้าห่มวอร์มยาง พัฒนาใหม่ทั้งในสลิ้กและสายฟ้า

เพื่อตอบโจทย์ในด้านการรองรับเครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำเวลาได้ดีขึ้นอีกหนึ่งเนื้อยางใหม่ในรุ่น Diablo Superbike และ Diablo Supercorsa SC v3 ในปี 2563นี้คือ เนื้อยาง SC3 ที่จะอัพเกรดสมรรถนะใหม่ทั้งหมดรอบด้าน ทั้งความแม่นยำ ความทนทาน

และยังมีประสิทธิภาพสูงพอที่สามารถใช้แข่งขันในรายการสมัครเล่นได้และยังคุ้มค่า ถ้าหากใช้เป็นยางฝึกซ้อมสำหรับนักแข่งมือใหม่ หรือผู้ที่ชอบการขับขี่ในสนาม โดยจะมีอายุการใช้งานนานกว่าเนื้อยาง SC ชนิดอื่นๆเท่าตัว และ SC3 ยังเป็นเนื้อยางแข่งชนิดเดียวที่ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าวอร์มยาง สามารถใช้การขับขี่แทนการวอร์มยาง

ทดสอบในกิจกรรม Pirelli Tack Day

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าการทดสอบยางรุ่นใหม่ของพีเรลลี่ครั้งนี้รวมกับกิจกรรม Pirelli Track Day ซึ่งจะมีนักแข่งและลูกค้านำรถส่วนตัวมาเข้าร่วมกิจกรรมด้วย แต่สำหรับสื่อมวลชนและตัวผมนั้นทางพีเรลลี่ได้ประสานกับค่ายรถเพื่อนำรถมาใส่ยางรุ่นใหม่นี้ให้ได้สัมผัสกัน

สื่อมวลชนร่วมทดสอบ

และการขับขี่จะขี่เต็มๆ ทั้ง 2 วัน โดยแบ่งเป็น  Session สลับกับทางลูกค้าของพีเรลลี่ ก็จะได้ขี่ประมาณ 5 Session ต่อวันใน และแต่ละ Session จะใช้เวลาขี่ประมาณ 20 นาที เรียกว่าพีเรลลี่และค่ายรถจัดให้เต็มที่เลยล่ะ

ส่วนตัวผมเองเองเรียกได้ว่า ขี่รถที่ไม่ซ้ำรุ่นกันเลยในการทดสอบทุก Session ไร่เรียงตามนี้ Aprilia RSV4RF, Aprilia RSV4 1100 Factory, Honda CBR1000RR, CBR250RR, 2020 Yamaha YZF-R1 และ 2020 Yamaha YZF-R1M ก็ต้องขอขอบคุณ Honda Bigbike, บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จํากัด สำหรับรถ Aprilia และ Yamaha Riders Club ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ  

ต้องบอกไว้เป็นข้อมูลก่อนเพราะพื้นฐานการควบคุม ช่วงล่าง และฟิลลิ่งการตอบสนองของรถแต่ละรุ่นนั้นต่างกัน แต่ทุกคันใช้ยาง Pirelli Diablo Superbike ขนาด 125/70R17 และ 200/65R17 ในส่วนของคอมปาวน์ ผมไม่ได้ดูทุกคัน แต่ที่พอเห็นก็จะเป็น SC0, SC1 ที่ยางหลัง ซึ่งรหัส SC ยางหลังจะมีให้เลือกใช้เยอะกว่า ทำไม? อย่างไร? อ่านต่อเลย

ทำไมยางหลังมีสเป็ค(SC) ให้เลือกเยอะกว่ายากหน้า??

ยางหน้าของ Pirelli จะมี SC1, SC2 และ SC3 โดยการใช้คันเร่งและการเบรกของผู้ขี่เป็นตัวเลือก เช่น ถ้าชอบเบรกเนียนๆ ก็ SC1 สไตล์นุ่มหนึบ แต่ถ้าชอบเบรกหนักมากๆ ก็ SC2 โครงสร้างยางแข็งขึ้นแต่หนึบแน่นอน

ส่วนยางหลังจะเลือกจากอุณหภูมิและสภาพสนามเป็นตัวกำหนด SC เบอร์ต่างๆ โดย SCX จะมีที่ยางหลังขนาดเดียว เบอร์เดียว ใช้ได้สนามเดียวคือที่บุรีรัมย์รองรับอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ส่วน SC0 จะนุ่มหนึบมาก โดยรวมแล้ว SC1 จะครอบคลุมมากที่สุด แต่ถ้า SC2 เหมาะกับพื้นสนามที่ยาบมาก และเหมาะกับคนชอบขี่สไลด์เข้าโค้ง ด้วยเพราะมีโครงสร้างยางที่แข็งกว่า SC1 ประมาณนั้น

ลองแล้วเล่าให้ฟังกันเลย

อย่างแรกที่ต้องบอกคือด้วยขนาด 125/70R17 และ 200/65R17 กับโครงสร้างหรือโปรไฟล์ยางใหม่ ทำให้รถสูงขึ้นกว่าเดิม รู้สึกได้เมื่อคล่อมรถแล้วเขย่งกว่าที่เคยนิดหน่อย Session แรกกับรถที่เพิ่งใส่ยางใหม่ โดยไม่มีผ้าห่มวอร์มยาง ผมตั้งใจจะขี่ 2 รอบเพื่อวอร์มยางก่อน

RSV4 1100 Factory

แต่เอาเข้าจริงขี่ได้รอบเดียว ผมอดใจไม่ไหวเริ่มใช้ความเร็วตั้งแต่ออกโค้ง 1 สู่ทางตรงยาว และเริ่มหาจุดเบรก ตัวผมเองทดสอบขี่ในสนามช้างด้วยรถและยาง Standard ประจำ ความต่างแรกที่เห็นคือระยะเบรกสั้นลงก่อนถึงจุดเลี้ยวที่คิดไว้ ผมจึงใช้เบรกไม่หนักนักให้รถไหลเข้าโค้ง 3 ไป แต่การเร่งออกผมเปิดคันเร่งเต็มข้อในเกียร์ 2 ของรถ Aprilia RSV4 (จริงๆ ผมมักใช้เกียร์ 3 นะ) แรงบิดของเครื่องยนต์ส่งไปยังยางหลังเต็มๆ รถนิ่งและเร่งได้เต็มที่เรียกว่าแทบจะกระโดดออกจากโค้ง

RSV4RF

ต้องยกคันเร่งเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รถบานหลุดขอบแทร็คไปซะก่อน ก่อนส่งเกียร์ 3 ต่อเนื่องไป จนถึงโค้ง 4 ไฮสปีด ผมกลั้นใจโหนเข้าไปที่ความเร็วกว่า 175 กม./ชม. ที่เกียร์ 4 ยางให้ความ “จิก” โค้งมากอย่างน่าประทับใจ จนเรียกได้ว่าในโค้งแต่ละโค้งถ้าเป็นนักแข่ง สามารถใช้ความเร็วและนอนรถได้เยอะกว่าเดิมแน่นอน กับ 1100 Factory รถที่มีพละกำลังมากๆ ต้องใช้เบรกหนักๆ ก็ไม่ใช่ ปัญหา ไม่มีปลิ้น ไม่มีย้วย เมื่อเร่งออกจากโค้งก็หนึบแน่น แต่ปัญหาอยู่ที่ความฟิตของผมเองนี่ล่ะ

2020 YZF R1
2020 YZF-R1M

บนรถ 2020 YZF-R1 ที่ผมเคยทดสอบรีวิวไปแล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว(Link รีวิว ท้ายบทความ) ในคลิปผมยังชมว่ายางที่ติดรถมาค่อนข้างดี แต่คราวนี้ต่างกัน! เพราะการควบคุมต่างๆ เหนือกว่ามาก ผมเบรกรถได้มากกว่าเดิม ด้วยสไตล์ของ 2020 R1 ที่เซ็ต Engine Brake ไหลๆ ผมจึงต้องใช้เบรกหน้าลึกและหนักพร้อมเอียงรถเข้าโค้งไป รถเลี้ยวไวขึ้น และยังให้ความรู้สึกอยู่ในการควบคุม หนึบ แน่น พร้อมพุ่งสู่โค้งต่อๆ ไปอย่างสนุกกว่าที่เคยขี่ R1 มาจริงๆ จัดว่า The Best เลยล่ะ

CBR1000RR
มีขนาดสำหรับใส่รถ 250-300 ซีซี ด้วยนะ

 ส่วน CBR1000RR ทีมีจุดเด่นเรื่องการควบคุมที่ง่าย ก็ยิ่งง่ายกว่าเดิม แต่ให้เวลาต่อรอบได้เร็วขึ้น ผมเองเคยขี่ CBR1000RR นี้ใน Track Day ของฮอนด้าโดยรถติด Transponder จับเวลาไว้ด้วย รถเดิมๆ ได้ที่ 1.50 กว่าๆ ถ้าจำไม่ผิดนะ โดยขี่รอบเดียวกับลูกค้าที่เป็นมือใหม่ จึงต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่แซงทางโค้ง แซงทางตรงเว้นช่วงห่างๆ แต่ในครั้งนี้ไม่มีปัจจัยนั้น พร้อมยาง Pirelli Diablo Superbike ที่ใช้ สามารถทำให้เร็วกว่าเดิมจนรู้สึกได้  

รหัส SC ของยางหน้าและหลัง กราฟฟิกต่อไปนี้ จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้น
ไกด์ แนวทางเบื้องต้นสำหรับ เลือกใช้ SC ตามสไตล์ขับขี่ สภาพสนาม อุณหภูมิ
จุดเด่น จุดด้อย ของแต่ละ SC
ขนาดที่มีขาย ตามนี้

Special Thank
Comp Moto Group (Pirelli Thailand)
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จํากัด (Aprilia Thailand)
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด (Honda Bigbike Excited The World)
Yamaha Rider’s Club
Panda Rider ชุดขับขี่ REV’IT!

CBR-RR ไขความพิเศษรหัส RR บนรถสปอร์ตเรือธงของฮอนด้า คลิก
คลิป ทดสอบ รีวิว 2020 Yamaha YZF-R1 คลิก
คลิป ทดสอบ รีวิว Aprilia RSV4 1100 Factory คลิก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่