CBR1000RR และ CBR250RR รหัสพิเศษจากสนามแข่ง จัดเต็มแทร็คช้างฯ ในงาน Pirelli Track Day

0

ผมได้มีโอกาสขี่ CBR1000RR และ CBR250RR ที่สนามช้างอีกครั้ง ในงาน Pirelli Track day ความพิเศษของรถ CBR ในตระกูล RR ที่มีความพิเศษกว่ารถถนนทั่วไปอย่างไร มาดูรายละเอียดของ Series นี้กันเลย

ฮอนด้ารหัส CBR ผลิตมายาวนาน หลายขนาด แต่ผมจะพูดถึงสปอร์ตเรพลิก้าใหญ่สุดในค่ายนั่นคือขนาด 1000 ซีซี ก่อนเลย ซึ่งกว่าจะมาเป็น Honda CBR1000RR ที่เห็นในทุกวันนี้ มีวิวัฒนาการมากกว่า 25 ปี โดยฮอนด้าเป็นค่ายแรกที่กล้าจะคิดและทำ!?

ก็ต้องย้อนไปในช่วงยุคปี 80 จนถึง 90 ตอนต้น รถ “สปอร์ตเรพลิก้า” หรือรถที่มีดีไซน์ วัสดุการผลิต สมรรถนะ รวมไปถึงท่าขับขี่แบบเดียวกับรถแข่งมีขนาดใหญ่สุดที่ 750 ซีซี. เท่านั้น ซึ่งเป็นขนาดเดียวหรือเป็นรถรุ่น(รหัส)เดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันในรายการ WorldSBK ซึ่งถ้าใหญ่กว่านี้จะผลิตเป็นรถในสไตล์ “สปอร์ต-ทัวร์ริ่ง” เช่น Honda CBR1000F Hurricane ต่อเนื่องมาถึงรุ่น CBR1100XX Super Blackbird ที่รับการบันทึกว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เร็วสุดในโลกในช่วงปี 96-97 และทุกค่ายก็ผลิตและดำเนินการตลาดในรูปแบบเดียวกันนี้

เมื่อครั้งที่ผมได้สัมผัส Honda RC213Vs ก็ตรงตามที่ฮอนด้าได้เคยบอกว่าเทคโนโลยีต่างๆ ของ CBR-RR มาจากรถแข่ง MotoGP รุ่นนี้

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 1992 ที่ฮอนด้าเป็นเจ้าแรกที่คิดและทำรถสปอร์ตเรพลิก้า ที่มีขนาดใหญ่กว่า 750 ซีซี พร้อมด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า นั่นก็คือ Honda CBR900RR Fireblade และนี่คือต้นกำเนิดของ Honda CBR1000RR ในปัจจุบันนี้นั่นเอง

เมื่อครั้งที่ผมได้สัมผัส Honda RC213Vs ก็ตรงตามที่ฮอนด้าได้เคยบอกว่าเทคโนโลยีต่างๆ ของ CBR-RR มาจากรถแข่ง MotoGP รุ่นนี้

รหัส RR ย่อมาจาก Racing Replica รถสปอร์ตที่ใช้ในการแข่งขัน พอมาเป็นรถเพื่อขายก็จะใส่ฟังก์ชั่นที่ใช้งานบนท้องถนนและความปลอดภัยเพิ่มเข้าไป หรือจะพูดกลับกันก็ได้ว่ารถรหัส RR ที่ทำมาเพื่อขายนี้ สามารถถอดฟังก์ชั่นที่ใช้งานทั่วไปออกเพื่อลงแข่งขันได้เลย ก็ไม่ผิดนัก

Honda CBR1000RR ในปัจจุบัน

ผมมีโอกาสได้ขี่ Honda CBR1000RR ในสนามช้างฯ หลายครั้ง จนผมเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ทุกครั้งจะรู้สึกดีใจ ที่จะได้ขี่รถที่ขี่สนุกคอนโทรลได้ดั่งใจคิด นั่นหมายถึงการทำงานที่สัมพันธ์กันของพละกำลัง ช่วงล่างและระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผมเองก็เคยเขียนรีวิวในเว็บๆ หนึ่งไปแล้วสมัยกินเงินเดือนเขาอยู่ แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น? ผมจะเเล่าให้อ่านอีกที ที่นี่แหล่ะ

Honda CBR1000RR Fireblade โฉมที่เห็นหรือที่ขายอยู่ในปัจจุบัน(ปี 63) เป็น Generation ที่ 7 (ปี 2017-2019) นับตั้งแต่ปี 2004 ที่เริ่มมี CBR1000RR เจนแรกเป็นต้นมา ซึ่งใน Gen 7 นี้จะมาพร้อมกับรหัส SP ด้วย(RR-SP) เหมือนกับ Gen 6 ช่วงปี 2014-2015 เจนแรกที่มีสเป็ค SP แต่ที่ Gen 7 เพิ่มขึ้นมาคือรหัส SP2 ซึ่งเป็นตัวพิเศษกว่าขึ้นไปอีกขั้น และมีขายเพียง 500 คันทั่วโลก แน่นอนเท่าที่ผมรู้ ในไทยไม่มีนะครับตัว RR-SP2 ถ้าใครมีบอกด้วยจะตามไปถ่าย

ความพิเศษของ Spec RR-SP

ความเหนือชั้นของ Honda CBR1000RR-SP ที่ไม่เพียงเหนือกว่า RR แล้ว อะไหล่กับความคุ้มค่าของราคาที่ฮอนด้าให้มายังเหนือกว่ารถในคลาสหลายรุ่น โดยชิ้นส่วนระดับเทพมีดังนี้ โช้คอัพหน้า Ohlins NIX30 Smart EC , โช้คอัพหลัง Ohlins TTX36 Smart EC, คาลิปเปอร์หน้า Brembo Monobloc 4 ลูกสูบ Radial Mount, ล้อ Aluminium 5 ก้านตัว Y น้ำหนักเบา,ฝาครอบเครื่องแมกนีเซียม, แบตเตอรี่ lithium-ion, ท่อไอเสียไทเทเนียม, ถังน้ำมันเชื้อเพลิงไทเทเนียมขนาด 16 ลิตร รุ่นแรกครั้งแรกบนรถ Production ด้วยนะ และสีพิเศษ Tri Color อย่างหล่อ

Generation ที่ 7 เริ่มในปี 2017 ตัว SP เป็นจุดเริ่มของ CBR ที่ให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยต่างๆ มาเยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Honda Selectable Torque Control (Traction Control) 9 ระดับ เปิด-ปิด ได้, เอ็นจิ้นเบรกเลือกได้ 3 ระดับ Selectable Engine Brake Control, กันสะบัดไฟฟ้า Electronic Control Suspension, ป้องกันล้อหน้ายก Wheelie Control, ป้องกันล้อหลังยก Real Life Control

ระบบ ABS ในโค้ง Cornering ABS, Quickshifter Up & Down เพิ่ม-ลดเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์  โหมดการขับขี่ Riding Mode Select System  และ Power Selector สามารถเลือก Power, Torque Control, Engine Brake, Suspension ได้อิสระ ทำงานโดยมีศูนย์กลางคือ IMU (Inertial Measurement Unit) แบบ 5 แกน ร่วมกับ ECU ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และ Throttle by Wire คันแร่งไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในรถที่มีเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงของฮอนด้า

เรือนไมล์ TFT ฟังก์ชั่นเต็มระบบ

เรือนไมล์แบบ Full Color TFT Liquid-crystal ปรับแสงให้เข้ากับความสว่างรอบข้างอัตโนมัติ แบบเดียวกับ RC213V-s บอกความเร็ว รอบเครื่องยนต์ ระยะทาง ตำแหน่งเกียร์ ไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์(Shift light)ปรับตั้งเองได้ จับเวลาต่อรอบ อุณหภูมิเครื่องยนต์ โหมดการขับขี่  มีไฟบอกการทำงานระบบ HSTC, ABS, เตือนน้ำมันเชื้อเพลิง เตือนน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์

หัวใจ Fireblade

เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง ปริมาตร 998 ซีซี DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI เกียร์ 6 สปีด พื้นฐานเดียวกันกับ Version ธรรมดา เคลมแรงม้ามาที่ 189 ตัว แต่ด้วยข้อกฎหมายไทยทำให้เลขแรงม้าถูกจำกัดไว้

ช่วงล่างเทพ ในตัว RR-SP

สิ่งที่พิเศษของรหัส SP ที่เห็นได้ชัดคือช่วงล่างทั้งระบบ โช้คอัพหน้าไฟฟ้า Ohlins NIX30 Smart EC (Electronic Control) ขนาด 43 มม. ปรับ preload, compression และ rebound โช้คอัพหลังไฟฟ้า Ohlins TTX36 Smart EC (Electronic Control) ปรับ preload, compression และ rebound  คาลิปเปอร์หน้า Brembo Monobloc 4 ลูกสูบ Radial Mount จับกับดิสก์ขนาด 320 มม. เบรกหลังคาลิปเปอร์ Nissin กับดิสก์ขนาด 220 มม.พร้อมระบบ ABS

ล้อเป็นอลูมิเนียม 5 ก้านตัว Y น้ำหนักเบา รัดด้วยยาง Bridgestone Battlax Racing Street RS10 ขนาด 120/70-17 ที่ล้อหน้า และ 190/50-17 ที่ล้อหลัง

ส่วนเวอร์ชั่น RR โช้คอัพหน้า Upside Down ของ Showa แบบ Big Piston Forks ขนาด 43 มม. โช้คอัพหลังเดี่ยวของ Showa ปรับ Preload, Compression และ Rebound damping ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มในระบบ Uni Pro – Link ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. คาลิปเปอร์หน้า 4 ลูกสุบเป็นของ Tokico ด้านหลัง Nissin

Honda CBR250RR รหัส RR ตัวพิเศษรุ่นเล็กสุดของตระกูล

Honda CBR250RR ที่ขายในประเทศไทย เป็นรถที่ถูกผลิตและนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพราะ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด นอกจากผลิตรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเพื่อขายทั้งในประเทศและทั่วโลกแล้ว การนำเข้ารถมาขายภายในประเทศจึงนำเข้ามาเฉพาะรถที่ผลิตมาจากบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ด้วยมาตฐานการผลิตที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ความคิดเห็นส่วนตัวของผมจะบอกว่ามี QC สูงที่สุดก็ว่าได้

ผู้หญิงก็ชอบและใช้เทคโนโลยีของ CBR250RR ได้อย่างคล่องตัว
2 สูบ เทคโนโลยีสูง

เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก = 62.0 x 41.3 มม. มีปริมาตร 249 ซีซี. มีอัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1 เกียร์ 6 สปีด ให้กำลัง 38.1 แรงม้าที่ 12,500 รอบ/นาที แรงบิด 23.2 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ/นาที แรงมาตั้งแต่เกิด

ฟีล์ม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ บนอาน CBR250RR เขาบอกว่าไม่ต่างจากรถแข่งเลย แถมยังควบคุมง่าย

ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้เสื้อสูบอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ระบายความร้อนด้วยดี ลูกสูบเคลือบโมลิดินัม ลดแรงเสียดทาน ระบายความร้อนดี ที่พิเศษคือปั้มน้ำจะต่อกับเพลาลูกเบี้ยว(แคมชาร์ฟ) แบบเดียวกับ RC213V ประสิทธิภาพการระบายความร้อนจึงไม่ต้องห่วง ใต้เครื่องยนต์หรืออ่างน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ยังทำเป็นครีบระบายความร้อนด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพด้วย “แรมแอร์” ระบบท่อดักอากาศพร้อมจะอัดอากาศที่มีปริมาตรหนาแน่นและแรงเขาสู่กรองอากาศและชุดเรือนลิ้นเร่ง อีกชุดเรือนลิ้นเร่งยังเป็นแบบ Down Draft มีทางเดินของอากาศหรือไอดีที่สั้นและใหญ่ ถ้าเป็นยุคคาร์บูเรเตอร์ก็เป็นคาร์บูเรเตอร์แบบ Slingshot ดีๆ นี่เอง แรงแน่นอน!!

ตามไลน์แชมป์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เกินตัว

เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า Throttle by Wire อุปกรณ์มาตรฐาน การทำงานโดยจะมีเซ็นเซอร์ APS (Accelerator Position Sensor unit) ติดตั้งที่ปะกับแฮนด์ด้านขวาคอยจับการใช้คันเร่งและส่งสัญญาณไปที่ ECU เพื่อคำนวณและสั่งการเปิดเรือนลิ้นเร่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเครื่องยนต์ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเศษเสี้ยววินาที

ทั้งหมดยังเกี่ยวโยงกับการโหมดขับขี่ทั้ง 3 โหมด คือ Comfort, Sport และ Sport+ (Sport Plus) ที่มีความต่างการในเรื่องการตอบสนองชัดเจน และสามารถปรับเลือกใช้ได้ง่ายๆ ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย กดเลือกโหมดได้ตลอดเวลา

New Honda CBR250RR
เทคโนโลยีเฟรมและช่วงล่าง

เฟรม Truss Frame มีเทคนิคหล่อขึ้นรูปแบบ Gravity Die Casting แข็งแรงและน้ำหนักเบา โช้คหน้าแบบ Upside down ของ Showa ขนาด 37 มม. ปรับไม่ได้ โช้คอัพหลังเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ โช้คทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมิเนียม ด้วยระบบ Pro-Link

New Honda CBR250RR

ดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวแบบ Wave Disc ขนาด 310 มม. หนีบด้วยคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบจาก Nissin ดิสก์เบรกหลัง Wave Disc ขนาด 240 มม. คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบจาก Nissin พร้อมระบบ ABS 2 Channel  เป็นมาตรฐาน ซึ่งจานดิสก์ที่เป็นแบบ Wave Disc จะช่วยในการระบายความร้อนออกจากจานดิสก์เบรก เพิ่มหน้าสัมผัสให้อากาศได้ถ่ายเทความร้อนมากขึ้น ล้อแม็กอลูมิเนียม 7 ก้าน รัดด้วยยาง Tubeless ขนาด 110/70-17 และ 140/70-17

New Honda CBR250RR

ดีไซน์ที่เป็นสปอร์ตเรพลิก้าถอดแบบมาจากรถแข่ง พกท่อไอเสียปลายคู่เด่นสุดๆ ยังติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยรอบคัน ไฟส่องสว่าง LED ทั้งคัน ไฟหน้า LED ดีไซน์ 2 ชั้น Double Layered เรือนไมล์ Full LED บอกตำแหน่งเกียร์ มีชิฟไลท์ บอกโหมดการขับขี่ มีจับเวลาหรือ Lap Time ที่กดใช้งานได้ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย

New Honda CBR250RR

ที่พิเศษของเรือนไมล์คือวัดรอบเครื่องยนต์ที่ปรับเลือกได้ 4 แบบ คือ แบบมาตรฐาน แบบเพิ่มความสว่าง แบบที่มีแถบไฟติดตรงรอบที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ และแบบที่มีจุดไฟค้าง 0.7 วินาที เพื่อบอกรอบสูงสุดก่อนเปลี่ยนเกียร์ ให้เราได้เห็นทันว่าเปลี่ยนเกียร์ตรงรอบที่เราตั้งใจจะเปลี่ยนเกียร์หรือไม่

ยกฝูง RR บิด Pirelli Track Day

ฮอนด้าได้ร่วมเป็น Sponsor ในกิจกรรมครั้งนี้ พร้อมยกทัพรถในรหัส RR ที่มีขายในปัจจุบันมาให้สัมผัสกันเต็มอิ่ม กับไฮไลท์คือ RC213Vs รถแข่ง MotoGP ที่เป็นหัวใจหลักของเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน CBR-RR

ครั้งนี้ฮอนด้านำ Honda CBR1000RR-SP มาให้ลองขี่กันถึง 4 คัน พร้อม Honda CBR1000RR สเป็ค Euro อีกคัน และ Honda CBR250RR ที่นำมาเพียงคันเดียว!! แต่เมื่องานเริ่ม 250RR คือรถที่มีคนสนใจที่สุด มีคนลงชื่อต่อคิวขอทดลองขี่กันเป็นหางว่าว หลายคนก็ต้องอกหักอดขี่อ่ะนะ ใครจะรู้ว่า RR ตัวเล็กคือรถที่คนอยากสัมผัสมากที่สุดในงาน

อย่างที่บอกไปในช่วงต้นส่วนตัวผมมีโอกาสได้ขี่ Honda CBR1000RR โฉมนี้ในสนามช้างฯ บ่อยครั้ง ทุกครั้งก็คงความประทับใจ ด้วยเพราะรหัส RR มีความพิเศษในตัวเอง มันรู้สึกถึงความภูมิใจที่ได้ขี่รถที่มีเรื่องราวมายาวนาน ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำหน้า

การตอบสนองของช่วงล่างอันสุดประทับใจเลี้ยวได้ดั่งใจทุกองศาอยู่ในการควบคุม ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยการขับขี่ทุกอย่างทำงานประสานกันอย่างชาญฉลาด ฉับไว และนี่คือรถที่ให้การการควบคุมดั่งใจคิดและให้ความสนุกได้เต็มที่ ตามสโลแกน Total Control

ความโดดเด่นของออฟชั่นที่ติดมาเดิมๆ จากโรงงานยังเหนือชั้นจนต้องมองทั้งสนาม โดยเฉพาะตัว SP ที่มีโช้คอัพหน้าหลัง Ohlins สีทองอร่าม คาลิปเปอร์ Brembo หล่อคุณภาพ และสีไตรคัลเลอร์ที่สวยลงตัวที่สุด

New Honda CBR250RR
250RR รถแข่งในคราบรถถนน

น้องเล็กสุดรหัส RR ที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจาก RC213Vs เครื่องยนต์รอบจัดไม่ต่างจากรถแข่งสามารถลากรอบได้ถึง 14,000 รอบ/นาที และรอบที่เหมาะกับการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นคือที่ 12,500 รอบ/นาที นี่คือรถแข่งที่ติดอุปกรณ์เพื่อขี่บนถนนมานั่นเอง

ใน Pirelli Track Day ครั้งนี้ CBR250RR ได้ถูกเปลี่ยนใส่ยางสลิกคอมปาวน์พิเศษของ Pirelli ยิ่งเสริมให้ 250RR แสดงศักยภาพแบบเดียวกับรถแข่ง Asia Road Racing ทันที โค้ง 4 โค้งไฮสปีดสามารถร้อยโคงไปด้วยความเร็วที่มากกว่า 160 กม./ชม. สบายๆ อย่าลืมนี่คือรถเดิมๆ นะ!!

นอกจากสมรรถนะทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างของ CBR250RR แล้ว ที่ผมพูดเสมอคือความมีคุณค่าของตัวรถ เหมือนรถหลายๆ รุ่นของฮอนด้าในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น NSR250R, RVF400, RC30, RC45 หรือแม้แต่ NSR150 Pro Arm รถที่ผลิตในไทยก็ด้วย แต่กับ CBR250RR ที่ผลิตและนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคันแบบนี้ มีอนาคตแน่นอน ไม่ต้องสืบ ผมเองยังอยากเก็บไว้สักคันถ้าเงินในกระเป๋าจะอำนวย

Total Control การควบคุมที่ง่ายและเบาแรง อีกหนึ่งความลงตัวที่ถูกถ่ายทอดมาจาก RC213V

และทั้งหมดก็คือความพิเศษของ CBR รหัสลงท้าย RR ทั้ง 2 รุ่นที่ เอ.พี.ฮอนด้า นำไปให้สื่อมวลชนและลูกค้าได้สัมผัสได้ลองขี่ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามแข่งระดับโลกคู่ควรกับรถระดับโลกจริงๆ

ไปสัมผัสตัวจริงของ CBR1000RR ได้ที่ Honda Bigwing ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วน Honda CBR250RR ไปดูได้ทั้งใน Honda Bigwing และในโชว์รูม Honda Wing ทั่วประเทศ ด้วยจำนวนสาขาของทั้ง Honda Bigwing และ Honda Wing นี่คือจุดแข็งของการให้บริการที่มีมาตรฐานและมีความอย่างทั่วถึงเหนือกว่าใคร

CBR1000RR ราคา 731,190 บาท
CBR1000RR-SP ราคา 885,850 บาท
CBR250RR ราคา 249,000 บาท

Special Thank
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, Honda Bigbike Excited The World
Pirelli Moto
ชุดขับขี่ REVIT! จาก Panda Rider

รีวิว ทดสอบ Honda CBR250RR แบบเต็มๆ คลิก
คลิป รีวิว ทดสอบ CBR250RR คลิก
CBR400RR และ VFR400R ตำนานรถ 400 ซีซี คลิก
ทดสอบ รีวิว CBR Series คลิก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่