รีวิว 2023 DUCATI DIAVEL V4 สปอร์ตครุยเซอร์ เครื่อง V4 จาก Multistrada V4 ขนาด 1200 ซีซี 168 ม้า หล่อ แรง ไฮเทค

0
Ducati Diavel V4

2023 Ducati Diavel V4 ที่เปลี่ยนโฉมใหม่แบบ All New ไฮไลท์คือเครื่องยนต์ใหม่แบบ V4 ในรหัส V4 Grandturismo เหมือนที่อยู่ใน Multistrada V4 ปรับให้เหมาะกับสไตล์ กับความแรงและเทคโนโลยีที่มี จนน่าจะได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตครุยเซอร์ที่ทันสมัยและเร็วแรงที่สุด

Diavel

Diavel V4 เปิดตัวในไทยครั้งแรกในงาน Motor Show 2023 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ นอกจากความหรูหราเฉียบขาดดุดันตามแบบฉบับอิตาเลี่ยนดีไซน์ เครื่องยนต์เดิมรหัส Testastretta DVT 1260 แบบ L-Twin 2 สูบ เปลี่ยนเป็นแบบ V4 รหัส V4 Grandturismo

Diavel V4

ก็คงต้องแนะนำสเปคเครื่องยนต์กันอีกที เครื่องยนต์รหัส V4 Grandturismo คำว่า Grandturismo บอกถึงคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ ที่โดดเด่นเรื่องการเดินทาง เครื่องยนต์ลูกนี้เป็นเครื่องเดียวกับ Muitistrada V4 ปรับแมพปิ้งใส่เทคโนโลยีใหม่ให้เหมาะกับสไตล์ของรถที่เป็นครุยเซอร์?

Diavel V4

ดูคาตินิยามให้ Diavel เป็นสปอร์ตครุยเซอร์ ไม่ใช่แค่รถครุยซอร์ทั่วไป ผมเองเรียกกลุ่มรถชนิดนี้ว่า Muscle Cruiser แต่ดูคาติก็พิสูจน์แล้วว่าสปอร์ตครุยเซอร์ไม่ใช่แค่เรียกขึ้นมาโก้ๆ Diavel พกพาเครื่องยนต์ทรงพลังพร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยท่วมคัน รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ในรถสปอร์ตบางรุ่นยังหาไม่ได้

เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ V4 Grandtourismo 4 สูบ V ทำมุม 90 องศา เพลาข้อเหวี่ยงหมุนสวนทาง ใส่เทคโนโลยี Twin Pulse องศาเพลาลูกเบี้ยวที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปจนถึงการเดินทางไกล 16 วาล์ว 1158 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้าที่ 10,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 126 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบ/นาที มีอัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1 เกียร์ 6 สปีด

Ducati Diavel V4

ระบบอิเล็กทรอนิกส์

ผมจะเขียนถึงสเปคไม่หมดทั้งคัน สเปคผมจะลงไว้ท้ายคอนเทนต์ครับ เครื่องแล้วมาดูระบบอิเล็กทรอนิกส์กันหน่อย พื้นฐานคือใช้ IMU แบบ 6 แกน ตรวจจับมุมเอียงของรถทุกมุมแบบทันที มีผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่ทุกระบบในแต่ละโหมดขี่ต่างกันออกไปรวมถึงสามารถตั้งค่าได้เอง

Ducati Diavel V4

โหมดขี่ให้มา 4 โหมดคือ Sport Touring Urban และ Wet ซึ่งโหมด Wet เป็นโหมดใหม่ใน Diavel ก็ตามชื่อโหมดครับนอกจากไว้ขี่ลุยฝนลุยพื้นเปียก ก็ใช้เมื่อต้องขี่บนพื้นถนนที่มีความยึดเกาะต่ำ พื้นลื่น อะไรประมาณนั้น

Diavel V4

โหมด Wet นี้การตอบสนองคันเร่ง Ride by Wire จะช้าที่สุด ส่งกำลังออกมาให้ใช้เพียง 115 ตัว และแพคเกจอิเล็กทรอนิกส์ในโหมดนี้ก็เข้ามาจัดการเกือบเต็มระดับที่มี

ซึ่งทั้งโหมด Wet และโหมด Urban จะส่งกำลังเท่ากันที่ 115 แรงม้าจาก 168 แรงม้า แต่ระดับของระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างกัน มาดูกันเลยว่า Diavel V4 มีระบบอิเล็กทรอนิกส์อะไรบ้าง

Ducati Diavel V4

ระบบอิเล็กทรอนิสก์เกินกว่าจะเป็น Cruiser

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยเหล่านี้จะช่วยให้เราขี่ได้สนุกและปลอดภัยมากขึ้น ใน Diavel V4 ก็จะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เหมาะสมกับสไตล์รถและปรับเลือกระดับได้อิสระ คือ ระบบ ABS Cornering EVO มี 3 ระดับ, ระบบ Ducati Traction Control EVO2 (DTC) มี 4 ระดับ

Ducati Diavel V4

ระบบ Ducati Wheelie Control EVO (DWC) มี 4 ระดับ, ระบบ Ducati Power Launch EVO (DPL) มี 3 ระดับ, ระบบ Cruise Control และระบบ Ducati Quick Shift EVO (DQS) ทั้งเพิ่มและลดเกียร์

ออฟชั่นทันสมัยสมชื่อ Ducati

Diavel V4

เริ่มจากเรือนไมล์ TFT สีขนาด 5 นิ้วปรับแสงอัตโนมัติ คือ ขี่กลางวันหน้าจอจะสีขาวขี่กลางคืนหรือในที่แสงน้อยหน้าจอจะเป็นสีดำ สามารถเชื่อมต่อ Smartphone ด้วย Bluethooth สามารถสั่งโทรออกหรือรับสายได้ และใช้งานระบบนำทางได้แต่จะเป็นแบบ Turn-by-Turn ซึ่ง Diavel V4 ได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์ Multimedia System มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว เพียงแค่ซื้อซอร์ฟแวร์เพิ่มเติมและใช้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น My Ducati

ไฟ LED รอบคัน ไฟหน้ามีดีไซน์ของ Daytime Running Light เป็นรูปตัว C ประกบกัน กุญแจ Keyless ไฟท้าย LED ออกแบบให้ฝังอยู่ใต้บังโคลนหรือ Under Tail สวยเฉียบขาดมาก

Diavel

จากเฟรมท่อเหล็กสู่เฟรมอลูมิเนียม

Diavel ตั้งแต่ Gen แรกจะใช้เฟรมท่อเหล็กตามสไตล์รถสูบ L ในค่าย จนมาถึง Diavel V4 ที่ใช้เครื่องยนต์ V4 ก็เปลี่ยนเฟรมเป็นอลูมิเนียมโมโนค็อก รวมถึงสวิงอาร์มแขนเดี่ยวด้วย แต่ซับเฟรมยังเป็นเหล็ก ซึ่งเฟรมที่เปลี่ยนใหม่นี้ทำให้น้ำหนักเบาลงถึง 8 กิโลกรัมรวมกับเครื่องยนต์ที่เบาลง 5 กิโลกรัม น้ำหนักรถจะเบาลงรวม 13 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับโมเดลเดิม

ช่วงล่างสุดเซ็กซี่ ยางหลังไซส์ 240

มาดูโช้คอัพหน้าก่อนเพราะไม่ใช่ของเดิม เป็นโช้ค Upside Down ปรับได้ทุกจุดคือ Rebound Preload และ Compression โช้คมีขนาด 50 มม. ใหญ่กว่าเดิม 2 มม. โช้คอัพหลังเดี่ยวปรับได้ทุกจุดเช่นกัน

ดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 330 มม. คาลิเปอร์ Brembo Stylema ดิสก์เบรกหลัง 265 มม. คาลิเปอร์ Brembo 2 ลูกสูบ ยางหน้าขนาด 120/17ZR17 ยางหลังขนาด 240/40ZR17 ยางที่ติดรถเป็น Pirelli Diablo Rosso III

ถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุ 20 ลิตรใหญ่กว่าโมเดลเดิมที่มีความจุ 17 ลิตร น้ำหนักตัว 211 กิโลกรัม และเมื่อรวมของเหลวจะหนัก 236 กิโลกรัม (Panigale V4 รวมของเหลวหนัก 197 กิโลกรัม)

2023 DUCATI DIAVEL V4 ราคา 1,299,000 บาท มี 2 สี

Ducati Diavel V4

เร็วแรงแต่สมู้ท

มาว่ากันหลังลองขี่ ในเรื่องดีไซน์ถ้าเทียบกับ 1260 โมเดลก่อนหน้า ดูผ่านๆ ไม่ต่างกันนัก เส้นสายบอกความเป็น Diavel ชัดเจน แต่ในรายละเอียดทั้งย่อยและใหญ่เปลี่ยนใหม่ตามที่ผมได้บอกไปในเบื้องต้น

Ducati Diavel

ผมขี่ออกจาก Ducati Thailand ด้วยโหมด Sport การควบคุมทำความคุ้ยเคยใช้เวลาไม่นาน ท่านั่งแนว Muscle Cruiser คือแฮนด์ไม่ไกลตัวนัก คนขี่โน้มไปด้านหน้าหน่อยๆ พักเท้าวางกลาง จะว่าไปคล้ายๆ Naked อยู่นะ ฮ่า ซึ่งเป็นข้อดีนะ เป็นท่าที่ควบคุมรถได้ง่ายในการเลี้ยวหรือซอกแซกฝ่าการจราจร

Ducati Diavel V4

เครื่องยนต์แบบ V4 แรง แต่มีความสมู้ทกว่าเครื่องยนต์ L-Twin แม้ในรอบต่ำตอนขี่ซอกแซกรถติดก็เถอะ ความร้อนของเครื่องยนต์ที่จะมาที่หว่างขาและขาคนขี่แทบไม่มี ผมลองใส่ขาสั้นขี่ได้รับความร้อนตอนพัดลมหม้อน้ำทำงาน หรือตอนขี่แล้วลมปะทะเครื่องเอาความร้อนมาโดนบ้างซึ่งเป็นเรื่องปกติ จะบอกคือมันไม่ร้อนครับ ยิ่งขี่ทางไกลใส่ขายาวก็ยิ่งไม่รู้สึกร้อน

Diavel V4 มีความคล่องตัวสูงเมื่อเทียบกับขนาดของเครื่องยนต์และสไตล์ของรถ ขี่ฝ่ารถติดไม่ใช่ปัญหานัก แต่ก็ต้องระวังบ้างเพราะขนาดไม่ใช่เล็กๆ เหมือนกัน น้ำหนักตัวที่เห็นตามสเปคบอกได้เลยว่าไม่หนัก กอปรกับเบาะที่ต่ำและช่วงขาหนีบที่แคบทำให้วางเท้าได้เต็มพื้นพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง มั่นใจขึ้นไปอีก จะจอดหรือหรือจะเลี้ยวกลับรถวงแคบๆ เอาขาช่วยยันประคองรถก็ทำได้สบาย

Ducati Diavel V4

ผมขี่ออกไป จ.ชลบุรี ใช้ถนนเทพรัตน์หรือบางนา-ตราด ผิวถนนไม่ดีนักบางช่วงเรียบยาวแต่หลายช่วงผิวถนนไม่ดีและยังมีคอสะพานดัก Diavel ก็ยังให้ความสนุกในการขี่ อัตราเร่งทรงพลังตั้งแต่รอบต่ำ เรื่องจะแซงรถนี่ขนมมาก แต่ในรอบสูงกลับยิ่งสนุก ดิบ เถื่อน แต่สมู้ทมาก เครื่องยนต์เนียนเรียบ รถพุ่งไปเหมือนความเร็วไม่มีหมด

Ducati Diavel V4

บนเส้นทางที่โล่งบ้างแซงรถบรรทุกบ้างรถเยอะบ้าง ผมกดคันเร่งสุดรอบสุดกำลังของเกียร์ 3-4 หลายครั้งสนุกมาก บางจังหวะไล่เกียร์ 2 – 3 – 4 ความเร็วพุ่งไป 230+ แบบง่ายๆ แต่ด้วยสภาพถนนและการจราจรผมไม่ได้ลองหาความเร็วสูงสุดหรอกนะ เอาว่าใครได้เป็นเจ้าของจับแฮนด์แน่นๆ ลองกันได้เลย

Quick Shifter ก็เป็นอีกปัจจัยที่ให้ความสนุกในการขี่ ระบบทำงานทั้งแม่นและแน่นไม่ติดขัด สับโดดไม่แคร์ว่าข้าคือครุยเซอร์ เปิดคันเร่งแรงออกตัว ล้อหลังโตๆ มีฟรีทิ้งหรือยกล้อได้เลยถ้าปิดระบบ Traction หรือปรับระดับต่ำสุดก็ได้เสียวเรียกอะดรีนาลีนแล้วล่ะ

Ducati Diavel V4

ผมเปลี่ยนมาลองใช้โหมด Wet สั้นๆ เพราะขี่ไม่สนุกเลย ฮ่า คือขี่โหมด Sport มาตลอดพอเปลี่ยนเป็น Wet ทั้งกำลังเครื่องยนต์ทั้งการตอบสนองของคันเร่งดร็อปลงทั้งหมด พร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาทำงานเข้มขึ้น

Ducati Diavel V4

ขากลับผมเจอฝนตกบนเส้นบางนา-ตราดตั้งแต่ช่วงข้ามสะพานบางปะกง ผมก็ยังขี่โหมดสปอร์ตยาวจนถึงบ้านย่าน บางนา กม.7 คือเพลินหรือใช้รถไม่คุ้ม ก็น่าจะเป็นอย่างหลังนะ โหมด Wet หรือ Urban ก็เหมาะกับพื้นลื่น หรือมือใหม่อยากได้หรือขี่รถแรงเพื่อเริ่มต้นได้ดี *อ่านและดูคลิปทดสอบดูคาติรุ่นอื่นๆ ได้ที่ Link ท้ายบทความ

Special Thank : Ducati Thailand , หมวกกันน็อค Airoh รุ่น Specktre , เสื้อและถุงมือ REV’IT , ร้าน Panda Rider

สเปค DIAVEL V4

เครื่องยนต์V4 Grandturismo, V 4 สูบ 90 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ
4 วาล์ว/สูบ Counter Rotation Crankshaft
ปริมาตรกระบอกสูบ1158 ซีซี
อัตราส่วนกำลังอัด14.0:1
แรงม้า168 แรงม้าที่ 10,750 รอบ/นาที
แรงบิด126 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบ/นาที
คลัชท์ไฮดรอลิก แบบเปียกซ้อนกันหลายแผ่น มี Slipper & Salf Servo
เกียร์6 สปีด
เฟรมอลูมิเนียม โมโนค็อก
โช้คอัพหน้าUpside-Down ขนาด 50 มม. ปรับได้ทุกจุด
โช้คหลังโช้คเดี่ยว ปรับได้ทุกจุด ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแขนเดี่ยว
เบรกหน้าดิสก์เบรกคู่ขนาด 330 มม. คาลิปเปอร์ Brembo Stylema 4 ลูกสูบ
เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มม. คาลิปเปอร์ Brembo แบบ 2 ลูกสูบ
ยางหน้า120/70ZR17 Pirelli Diablo Rosso III
ยางหลัง240/45ZR17 Pirelli Diablo Rosso III
ถังน้ำมันจุ20 ลิตร
น้ำหนักตัว210 กก.(Dry Weight) และ 236 กก. (Kerb Weight)

คลิปรีวิว 2023 Ducati Diavel V4

ขี่ Panigale V4S เที่ยวเขาใหญ่
สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารดูคาติไทยแลนด์ชุดใหม่
พรีวิว ดูคาติ มอนสเตอร์ 937
เปิดตัว โมโตเร อิตาเลียโน
คลิป ทดสอบรีวิว Panigale V2 ที่ประเทศสเปน คลิก
ทดสอบ รีวิว Streetfighter V4S ที่สนามช้างฯ คลิก
ทดสอบ รีวิว Panigale V2 ถึงประเทศสเปน คลิก
รีวิว Scrambler Icon และ Desert Sled คลิก
คลิป Panigale V4S แต่งใส่ท่อ Austin

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่