รีวิว Honda Forza 350 ขี่เที่ยว ระยอง จันทบุรี

0
Honda Forza 350

All New Honda Forza 350 สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม ที่ถูกปรับปรุงใหม่ทุกระบบ แก้ข้อด้อยต่างๆ จนลงตัว และครั้งนี้ผมจะพาฝ่าสายฝนไปเที่ยวทางไกลแบบเบาๆ ที่ ระยอง จันทบุรี มาดูรายละเอียดกันเลย

เป็นการขี่ Forza 350 ครั้งที่ 2 ของผมหลังจากที่ เอ.พี.ฮอนด้า ได้จัดให้สื่อมวลชนขี่ทดสอบหลังเปิดตัวในงาน Motorshow ที่ผ่านมา ผมไปรับ Forza 350 ที่สำนักงานใหญ่ เอ.พี.ฮอนด้า ย่านสำโรง แล้วขี่กลับมาที่ย่านลาดพร้าว-เลียบทางด่วน นี่จึงเป็นการขี่เดินทางหรือใช้งานในเมืองเป็นครั้งแรก

มิติรถ ต่างจากโมเดลเดิมนิดหน่อย

ว่ากันตามตรง ขนาดหรือมิติของรถไม่ได้ใหญ่นัก ยิ่งเมื่อเทียบกับ Forza 300 โฉมแรกที่ขายในไทย ยิ่งชัด แต่เทียบกับตัวก่อนหน้าขนาดและมิติต่างๆ ของตัวรถแทบจะเท่ากันเลยก็ว่าได้ ความคล่องตัวเมื่อต้องใช้ฝ่าการจราจรที่หนาแน่นจึงทำได้สบายๆ จะมีเรื่องความสูงของเบาะนิดหน่อยที่คนช่วงขาสั้นอาจต้องเขย่งหรือเอียงก้นช่วยในการจะวางขาลงพื้นให้มั่นใจ

คล่องตัว ความร้อนไม่สะสม ไม่รบกวนคนขี่

จุดเด่นคือกระจกมองหลังทั้ง 2 ข้างสามารถพับได้ เมื่อต้องเลาะรถติดๆ รวมถึงชิลด์บังลมหน้าปรับสูง-ต่ำด้วยระบบไฟฟ้า กดได้ที่สวิตซ์แฮนด์ รถติดๆ ปรับชิลด์บังลมต่ำสุดรับลมได้สบายๆ เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ ที่มีการย้ายหม้อน้ำไปไว้ด้านหน้าวางเอียงให้ลมร้อนที่ผ่านหม้อน้ำแล้ว ไหลลงไปที่ช่องระบายลมร้อนลงใต้ท้องรถนั้น จากที่ผมขี่ไม่รู้สึกถึงความร้อนขึ้นมารบกวนเลยล่ะ

อัตราเร่งตอนต้นหรือ ออกตัวออกชิงไฟเขียว รถพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากรถในขนาดเดียวกันหรือฟอร์ซ่า 300 เดิมชัดเจน ต้องบอกว่าถ้าทางข้างหน้าโล่งแต่ไม่ไกลนักคือมีรถติดดักรออยู่ต้องคอยเบาคันเร่งกันเลย เพราะ All New Forza 350 พุ่งดีเหลือเกิน 

เดินทางไกลกันดีกว่า

สำหรับผมแล้วการขี่หรือใช้ All New Forza 350 เดินทางไกลถือว่าเหมาะมาก ยิ่งถ้าชอบไปแบบคนเดียว มีคนซ้อน หรือไปกับกลุ่มรถที่ขนาดใกล้เคียงกัน ในทีนี้คือไม่ใช้ไปไล่หวดความเร็วทางตรงเป็นร้อยกิโลเมตรกับรถขนาดพันซีซีอ่ะนะ คือรถให้ความสบายสูงมาก แถมมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์มากมาย

จุดที่ปรับปรุงมากที่สุดคือเครื่องยนต์ เรียกว่าใหม่ทั้งหมดก็ว่าได้ ได้ชื่อใหม่ว่า eSP+ (อีเอสพีพลัส) เป็นเครื่องยนต์ 4 วาล์ว SOHC พละกำลังและอัตราเร่งที่มากขึ้นจนเป็นที่ประจักษ์ การเร่งแซงรถสิบล้อหรือรถอื่นๆ ที่ขับช้าร่วมเส้นทางอยู่ก็ทำได้ดั่งใจปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์สามารถให้กำลังได้ต่อเนื่อง ลื่นไหลกว่าเดิม ด้วยการออกแบบ ระบบหล่อลื่นและระบายความร้อนภายในใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ลูกสูบเคลือบโมลิดีนั่ม ปลอกเสื้อสูบเทคโนโลยี  Spine Sleeve  และ Piston Oil Jet ฉีดน้ำมันหล่อลื่น(น้ำมันเครื่อง)ใต้ลูกสูบ ทำหน้าที่ได้เห็นผล

และแม้ขนาดลูกสูบจะใหญ่ขึ้นไป 77 มม. กับช่วงชัก 70.7 มม. คือข้อเหวี่ยงทั้งยาวและใหญ่กว่าเดิมด้วย แต่เครื่องยนต์ยังทำงานด้วยความนุ่มนวลแทบจะไม่มีแรงสั่นสะเทือน ด้วยเพลาข้อเหวี่ยงที่มีการใส่ชุดบาลานเซอร์เข้าไปใหม่นั่นเอง ความเร็วปลายเกินกว่า 150 กม./ชม. สบายๆ ผมไม่ได้ลองกดไปมากกว่านี้ แต่กำลังเครื่องยังไหลไปได้อีกแน่นอน

กรองอากาศ 5.5 ลิตร ใหญ่กว่าเดิม ลิ้นปีกผีเสื้อก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่าเดิม พร้อมส่งมวลอากาศเข้าสู่ไอดีได้เยอะขึ้น ท่อเสียก็ออกแบบใหม่ทั้งหมด คอท่อเป็นสแตนเลสจากโรงงานเพื่อการไหลลื่นของไอเสียและคายความร้อนได้เร็วขึ้น

เม็ดตุ้มใหม่หนัก 21 กรัม คลัทช์ใหม่ 5 ก้อน สายพานขับเคลื่อนก็เปลี่ยนใหม่ รองรับกำลังที่มากกว่าเดิม อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าตัว 300 เดิม ก็เป็นธรรมดาที่เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสมรรถนะหรือความแรงที่มากขึ้น อันนี้ก็ต้องแลกกัน แต่ก็ไม่มากมายอะไรยังใช้เที่ยวเดินทางไกลและเติมน้ำมันได้แบบสบายๆ กระเป๋าครับ

สายฝนที่ตกๆ หยุดๆ ตลอดเส้นทาง ชิลด์บังลมหน้ามีประโยชน์มาก ทั้งกันเม็ดฝน และความเปียกหนาว รวมไปถึงเมื่อต้องเร่งแซงรถบรรทุก ชิลด์บังลมที่สูงใหญ่ (ปรับสูงสุดมีระยะ 15 ซม. สูงกว่าเดิม 4 ซม.) ป้องกันละอองน้ำสกปรกที่ดีดจากล้อของรถบรรทุกได้ดีอีกด้วย และชิลด์บังลมปรับไฟฟ้าแบบนี้ในคลาสนี้มีเพียงรุ่นแรกรุ่นเดียวในประเทศไทยนะจะบอกให้ จริงๆ รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับราคาหลายแสนยังไม่มีให้เลยนะจะบอกให้

ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ฮอนด้าบอกว่ามีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน หลังจากได้ลองในสนามทดสอบครั้งแรกและมาใช้งานจริง ก็ยังคงประทับใจกับระบบนี้ของ Honda นะที่ใส่มาให้เพื่อความปลอดภัยที่ดีกว่า เหนือระดับจริงๆ สามารถปิด/เปิดระบบได้ด้วย ซึ่งการทำงานของระบบนี้จะคล้ายกับระบบ Traction Control นั่นเอง

HSTC เป็นระบบที่คำนวณการหมุนของล้อหลังให้สัมพันธ์กับแรงบิดหรือการใช้คันเร่ง เมื่อล้อหลังหมุนผิดปกติ คือหมุนเร็วกว่าคันเร่งที่ใช้ นั่นคืออาการลื่นเสียอาการ ระบบจะตัดกำลังแรงบิดทำส่งไปที่ล้อหลังโดยที่เราไม่ทันได้ยกคันเร่ง ให้ล้อหลังกลับมาทำงานได้ปกติหรือยึดเกาะถนนได้ปกติ เพื่อผ่านอุปสรรคหรือพื้นผิวถนนที่ลื่นได้อย่างปลอดภัย

ช่วงล่างมีการเซ็ตติ้งโช้คอัพหน้าใหม่ มีความแข็งกว่าโมเดลเดิม แข็งคือมีความยุบและยืดที่หนืดกว่าเดิม ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น เลี้ยวได้คมกว่าเดิมนะ แน่นหนึบกว่าเดิม โช้คอัพหลังให้ความรู้สึกกลางๆ ยังนุ่มนวล โดยรวมใช้งานไม่มีปัญหา แต่โช้คหลังถ้าเปลี่ยนใช้ของแต่งแบรนด์ดังก็จะได้ทั้งหล่อและดีขึ้น(ถ้าเซ็ตติ้งลงตัวนะ)  

เบรกดีขึ้น อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าฮอนด้าปรับในส่วนของ ABS หรือเปล่านะครับ ฟิลลิ่งของโมเดลเดิมก็ลืมไปแล้ว ซึ่งฟีลลิ่งการทำงานของ ABS ในโมเดล 350 นี้ ทั้งหน้าและหลังค่อนข้างดีเลยล่ะครับ ผมทดสอบในการเดินทางไกลทั่วๆไป และใน กทม. ที่ต้องเบรกบ่อยๆ ไม่ตื้นไป ไม่ลึกมากไป และไม่ด้านสู้มือ

ฟังก์ชั่นแน่น ตอบโจทย์การเดินทาง

Forza 350 ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานมาเยอะที่สุดในคลาสก็ว่าได้ ที่ชารจ์ไฟ Gadget หรือมือถือ จะใช้ USB Type C แล้ว เป็น USB หัวเล็กๆ ครับ น่าจะเป็นรุ่นเดียว ณ ตอนนี้ที่ให้มา รองรับอุปกรณ์ต่างๆ ในปัจจุบันและอนาคตได้เลย ชิลด์บังลมปรับไฟฟ้าที่กล่าวไปแล้วก็เป็นรุ่นเดียวที่ให้มาอีกเหมือนกัน กระจกมองหลังที่พับเก็บได้นี่ก็ให้ความสะดวกในการใช้งานได้ดี

กุญแจ Honda Smart Key หรือ Keyless ที่รถรุ่นใหม่ๆ ต้องมีเป็นมาตรฐานติดรถไปแล้ว ช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิง และช่องเก็บของใต้เบาะนั่งเปิดใช้งานสะดวก พื้นที่ใต้เบาะนั่งกว้างใหญ่ใส่หมวกกันน็อคได้ 2 ใบ ใส่สัมภาระเดินทางไกลได้สบายๆ บาร์จับด้านท้ายเปลี่ยนใหม่เป็น Resin เบากว่าเดิมแต่การจับการใช้งานกระชับแข็งแรงไม่ต่างกัน เรือนไมล์ปรับใหม่แต่ยังคงรูปแบบเดิม คือมาตรวัดความเร็วลัดรอบจะเป็นเข็มอนาล็อกทรงกลมแยกซ้ายขวา ตรงกลางจะมีจอ LCD บอกการทำงานของระบบต่างๆ ในรถครบครัน ดูง่ายสบายตา

สรุป มองหาอยู่ ตัดสินใจซื้อได้เลย

Forza 350 เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด แก้ข้อด้อยจากโมเดลก่อนหน้ามาอย่างดี เครื่องยนต์ใหม่นอกจากพละกำลังที่มากกว่าเดิม อายุการใช้งานยังยาวนาน ด้วยเทคโนโลยีการหล่อลื่นและระบายความร้อนที่ให้มา ท่านั่งสบาย ใช้งานครอบคลุม เดินทางไกลยิ่งเด่น ฟังก์ชั่นหลายๆ อย่างฮอนด้ากล้าที่จะให้มาเพียงเจ้าเดียวในตลาดในขณะนี้ อาทิ ชิลด์บังลมไฟฟ้า ที่ชาร์จไฟ USB Type C รองรับอนาคต คุ้มค่าแน่นอน

All New Honda Forza 350 มีให้เลือก 4 สี คือ ดำ (สีที่ผมได้มาทดสอบนี้) , สีขาว-น้ำเงิน, สีแดง-ดำ และ สีน้ำเงิน-ดำ กับราคาเปิดตัวที่ 173,500 บาท

ซื้อได้เลย ไม่ต้องรอแล้ว!!

Special Thank : บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

ข้อมูล สเป็ค Forza 350 แบบเจาะลึก คลิก
คลิปทดสอบ รีวิว Forza 350
คลิปทดสอบ รีวิว Forza 300 ตัวแต่ง H2C ขี่เที่ยวบางสเร่

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่