“เก๋าว่ะ” ชื่อคอนเทนต์ใหม่ แต่เรื่องราวรถเก่าๆ ที่ผมเองเห็นว่ามีหลายคนสนใจและชอบอยู่ไม่น้อย เป็นรถในช่วงต้นปี 90 ช่วงที่ผมเองก็เพิ่งเริ่มขี่รถใหญ่ ก็เลยจะเอารถในช่วงยุคนั้นๆ ที่ถือเป็นยุคสุดพีคของรถ Bigbike ในไทย มาให้อ่านกันเรื่อยๆ เริ่มจาก Honda CBR400RR(NC29) และ Honda VFR400R(NC30) กันก่อนเลย
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/0872f0a6-oy1479997008.jpg)
Honda CBR400RR หรือรหัสเฟรม NC29 และ Honda VFR400R รหัส NC30 เป็นรถสปอร์ตเรพริก้า คือรถสปอร์ตที่จำลองรถแข่งออกมาขาย แต่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ออฟชั่นติดรถและฟีลลิ่งก็จะต่างยี่ห้อต่างรุ่นกันไป ซึ่ง 2 รุ่นที่ถือว่าเป็นรถที่นิยมที่สุดทั่วโลกในช่วงนั้น รวมถึงในไทยก็ต้องยกให้ 2 รุ่นนี้เลยล่ะครับ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/eedc6275-s__27877615.jpg)
Honda CBR400RR NC29
มีสายการผลิตในช่วงปี 1989 – 1999 จริงๆ ผมเองก็เข้าใจว่าน่าจะหยุดสายการผลิตตั้งแต่ประมาณปี 97 หรือ 98 นะ แต่ที่ญี่ปุ่นเขายังผลิตและขายอยู่จนถึงปี 99 เลย น่าจะเหมือน CB1300SF ที่ยังผลิตและขายเฉพาะในญี่ปุ่นอย่างเดียวในทุกวันนี้ แต่ CBR400RR หยุดสายการผลิตไปตั้งแต่ปี 99 ตามที่บอกนั่นล่ะคับ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/b38e639a-s__27877613.jpg)
Honda CBR400RR ด้วยชื่อรุ่นก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง ในช่วงเวลานั้นชื่อรุ่นก็สามารถแยกประเภทเครื่องยนต์ไปในตัวได้เลย เช่น CBR = 4 สูบเรียง, VFR = V4, NSR 2 จังหวะ ฯ และนี่ก็คือเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ CBR400RR
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/625dcf6a-cbr400rr-vfr400r-nc30-7.jpg)
ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง เสียงที่แผดออกมาจากปลายท่อไอเสียจึงหวานเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งได้ท่อสูตรตรงรุ่นแบรนด์จากแดนปลาดิบเข้าไปด้วยนะ “เคลิ้มเลย” แถมวิ่งกว่าเดิมอีกด้วยหลายคนหลงเสน่ห์ CBR ก็ตรงนี้
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/56b17722-s__27877621.jpg)
ในยุคที่ซื้อหากันที่ไทยการดูปีรถ นอกจากสีเดิมที่มาตัวรถ ก็จะดูที่เลขคอซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คำชำนาญแล้วล่ะครับผมเองก็จำไม่ได้ เช่น NC29-100xxxx, NC29-105xxxx หรือ NC29-110xxxx เป็นต้น
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/b8e8b2c3-cbr400rr-vfr400r-nc30-6.jpg)
ชิ้นส่วนอื่นที่ติดรถมาจากโรงงานญี่ปุ่น มาตรฐานสูงดูดีทั้งคัน เฟรมอลูมิเนียมแบบ TwinTube Frame เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น คือเฟรมจะโอบเครื่องยนต์และเว้าหักขึ้นมา เป็นส่วนรับน้ำหนักผู้ขี่และเชื่อมต่อโช้คอัพหลังและซับเฟรม
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/5f70b0b1-cbr400rr-vfr400r-nc30-5.jpg)
เฟรมยังมีความพิเศษคือตรงช่วงขาหนีบผู้ขับขี่จะแคบร่วมกับความสูงเบาะนั่งที่ 750 มม. ทำให้คนขาสั้นก็สามารถวางเท้าบนพื้นได้สบายๆ มีป้ายเทคโนโลยี L.C.G ติดข้างเฟรม ซึ่งผมว่าน่าจะย่อมาจาก Low Center of Gravity คือเป็นเฟรมที่ศูนย์ถ่วงต่ำ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/e44e5398-cbr400rr-vfr400r-nc30-2.jpg)
มีการดีไซน์ชุดแรมแอร์ในชื่อ Direct Air Intake จากแฟริ่งหน้ามาแปะตรงแฟรมที่เว้าเห็นคาร์บูเรเตอร์พอดี แต่ผมว่าเป็นแรมแอร์หลอกๆ อ่ะครับ เพราะตัว Air Box จะอยู่ใต้ถังน้ำมัน ไม่ได้เกี่ยวกับท่อแรมแอร์นี่เลย – -“
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/76213862-cbr400rr-vfr400r-nc30-8.jpg)
สวิงอาร์มที่มีชื่อเฉพาะหรือมีเทคโนโลยี Castec Gull Arm แขนอาร์มด้านขวาจะยกหลบท่อไอเสียอย่างเฟี้ยว และชื่อ Gull Arm ก็เป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของรุ่นด้วยเช่นกัน
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/1201bc7e-s__27877619.jpg)
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ 6 สปีด ให้กำลัง 59 แรงม้าที่ 13,000 รอบ/นาที แรงบิด 39 นิวตันเมตรที่ 10,000 รอบ/นาที สำหรับปี 90-93 และปรับลงมาเหลือ 53 แรงม้ากับแรงบิด 35 นิวตันเมตรตั้งแต่ปี 94 ด้วยกฎข้อบังคับการผลิตที่ออกมาใหม่ของประเทศญี่ปุ่น
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/370d81c9-s__27877618.jpg)
ซึ่งปีที่ปรับลดแรงม้าระหว่างปี 93 กับปี 94 ผมเลยดูจากการเปลี่ยนโมเดลของรุ่น VFR400R เป็น RVF400 ในปี 94 ซะเลย ถ้าคลาดเคลื่อนอันนี้ผมก็ขออภัย
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/1bb1d475-gear-train-comp_big14410ky2000-01_8f62.jpg)
เครื่องยนต์จะเป็น Cam Gear Train คือใช้เฟืองราวลิ้นในการขับแคมชาร์ฟ ไม่ใช่โซ่ราวลิ้น ข้อดีก็คงเป็นเรื่องของความสมู้ทและเงียบที่น่าจะทำได้ดีกว่าแบบโซ่ราวลิ้น ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ยุคนั้นไม่ต้องพูดถึงครับเพราะ “ไม่มี” ฮ่า
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/b2ad2f24-cbr400rr-vfr400r-nc30-1.jpg)
โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. ปรับ Spring Pre-load และ Rebound Damping ได้ด้วยนะ โช้คหลังเดี่ยวก็ปรับ ได้แบบเดียวกับโช้คหน้า ดิสก์เบรกหน้าคู่ คาลิเปอร์ข้างละ 2 ลูกสูบ ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวคาลิเปอร์สูบเดียว อยู่!
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/c56ebfe0-5_135.jpg)
ล้อแม็กแบบ 6 ก้าน ล้อหน้ากว้าง 3.5 นิ้ว ยางขนาด 120/60-17 ล้อหลังขนาด 4.5 นิ้ว ยางขนาด 150/60-17
ความนิยมนอกจากความลงตัวที่ว่ามา ก็คือดีไซน์ ไฟหน้าคู่ทรงกลมมีกรอบครอบอีกที นี่ก็เอกลักษณ์เพราะมีรุ่นเดียวที่เป็นแบบนี้ ไฟท้ายทางกลมคู่เหมือนกับโฉมก่อนหน้า(NC23) แต่โฉบเฉี่ยวกว่าด้วยแฟริ่งท้ายดีไซน์ใหม่ คือจะแหลมยื่นออกไปด้านท้ายรถ สวยต่างจากโฉมก่อนหน้าชัดเจน
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/b84b3ff6-tsr2015042016_1.jpg)
ความแปลกไม่เหมือนใครอีกอย่างคือพักเท้าคนซ้อน ที่สามารถพับเก็บหลบใต้แฟริ่งท้ายได้มิดชิด คือยุคนั้นถ้าจะแต่งหล่อ แต่งสไตล์สนามท้ายต้องโล่งๆ ก็ต้องถอดที่พักเท้าหลังออก แต่สำหรับ CBR400RR สบายครับไม่ต้องถอด จะใช้งานก็แค่บีบและดึงออกมาแค่นั้น … ก็สั้นๆ กับ Honda CBR400RR แค่นี้ก่อน ไปต่อกับรุ่นยอดนิยมที่มาคู่กันอีกรุ่นเลย
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/d7cd719b-cbr400rr-vfr400r-nc30-23.jpg)
Honda VFR400R NC30
VFR400R NC30 ผลิตขายในช่วงปี 1989-1993 ก่อนจะพัฒนาต่อเป็นโมเดลใหม่ในชื่อ RVF400 NC35 ออกขายในปี 1994 – 1998 ทั้ง NC30 และ NC35 มีดีไซน์คล้ายๆ กันก็จริง ซึ่งอะไหล่ทุกส่วนของรถคือคนละตัวกันเลย แต่สามารถใช้แทนกันได้ แปลกไหม
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/c3ac3a46-cbr400rr-vfr400r-nc30-9.jpg)
NC30 ได้แรงบันดานใจในการออกแบบจากรถแข่งคือ VFR750R หรือ RC30 แชมป์หลายรายการในยุคนั้น และยังเป็นรถในตำนานในฝันของใครหลายๆ คน เรื่องดีไซน์เรียกได้ว่า Copy กันออกมาเลย เด่นสุดๆ ด้วย “อาร์มแขนเดี่ยว” Single-Sided SwingArm หรือในชื่อ Pro-Arm ที่ Honda ตั้งขึ้นมาและเป็นเอกสิทธิ์ของ Honda จนเป็นที่ติดหูติดปากหลายคนเรียก Pro-Arm กับรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่มีเทคโนโลยีนี้ จนถึงทุกวันนี้
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/b0024757-cbr400rr-vfr400r-nc30-10.jpg)
เอกลักษณ์หนึ่งเดียวอีกอย่างคือเครื่องยนต์ที่เป็นแบบ V4 น่าจะเป็นรุ่นเดียวในพิกัด 400 ซีซี ที่ใช้เครื่องยนต์ลักษณะนี้ พร้อมกับเสียงของเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ ใส่ท่อแต่งยิ่งเฟี้ยว แต่บางครั้งผมก็นึกว่ารถสามล้อผ่านมานะ ฮ่าๆ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/f0fe7a1b-cbr400rr-vfr400r-nc30-21.jpg)
การดูปีก็ดูที่สีที่ลายเช่นเดียวกัน รวมถึงเลขเฟรหรือเลขคอของ NC30 ก็จะเป็น NC30-100xxxx, NC30-105xxx หรือ NC30-200xxx เป็นต้น ทีนี้รหัสอะไรปีไหนผมก็ลืมครับ ฮ่าๆ ใครจะซื้อในช่วงนี้ก็ลองศึกษาดูครับ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/bcadba10-s__27877628.jpg)
ด้วยเพราะได้แรงบันดานใจการออกแบบมาจากรถแข่ง NC30 จึงเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงเกินตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง เฟรม และเครื่องยนต์ เรียกได้ว่าลงตัวสุดๆ ในญี่ปุ่นเองก็ฮิตมากจนไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก๋าก็มักจะมี NC30 ไว้ฝนเข่าในสนามแข่ง หรือจะเรียกว่ารุ่นที่มือเก๋าสายเทโค้งเลือกใช้มากเป็นอันดับต้นๆ เลย ในไทยเองหลายคนก็เลือกใช้ NC30 ลงแข่งขันมากกว่า CBR400RR
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/2fef54a0-s__27877623.jpg)
ความต่างของลักษณะเครื่องยนต์ของ VFR400R และ CBR400RR ทำให้ทั้งคู่มีบุคลิกต่างกัน ในด้านการตอบสนองเครื่องยนต์ CBR400RR จะได้ในเรื่องความสมู้ท ความเร็วแรงในรอบต้นและกลาง ส่วน VFR400RR จะได้ในรอบกลางและปลาย แต่เอาเข้าจริงด้วยความเป็นรถขนาด 400 ซีซี ความเร็วปลายก็ไม่หนีกันมากนัก แต่มันต่างกันตรงการตอบสนองหรือฟีลลิ่ง
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/11af5200-cbr400rr-vfr400r-nc30-13.jpg)
สเป็คเครื่องยนต์ของ VFR400R จะเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ V4 ทำมุม 90 องศา DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 59 แรงม้าที่ 12,500 รอบ/นาที ให้แรงบิด 39 นิวตันเมตรที่ 10,000 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์แบบ V4 เป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อยเมื่อมาอยู่ในไทย จะมีปัญหาเรื่องความร้อน และระบบไฟ แผ่นชาร์จ ที่น่าปวดหัวกว่าทาง CBR400RR
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/e8851232-s__27877626.jpg)
ช่วงล่างก็ไม่เหมือนกันของ VFR400R มีความกระด้างและกระชับมากกว่า ดีเมื่อต้องขี่ในความเร็วสูงๆ หรือเอาไปบู๊ในสนามแข่งขัน โช้คอัพหลังเป็นโช้คแก๊สมีกระปุกแยกพร้อมตัวปรับได้ด้วย ส่วน CBR400RR จะมาในแบบอรรถประโยชน์ คือนิ่มกว่าอีกฝ่ายและใช้งานได้หลากหลายแบบสบายๆ
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/2f3e1cd4-1284140.jpg)
โช้คหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิดขนาด 41 มม. ปรับ Spring Pre Load และ Rebound Damping โช้คหลังเดี่ยวปรับ Spring Pre Load ได้ มีกระปุกแก๊สแยกและเป็นรีโมทปรับ Rebound ไปในตัว
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/d2587baf-1284142.jpg)
ดิสก์เบรกหน้าคู่ คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบต่อข้างต่างจาก CBR400RR ที่มีข้างละ 2 ลูก ส่วนดิสก์เบรกหลัง 1 ลูกสูบเช่นเดียวกัน
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/542e0f9e-cbr400rr-vfr400r-nc30-20.jpg)
ล้อแม็กหน้า 6 ก้าน ขนาด 3.5 x 17 นิ้ว ยางขนาด 120/60-17 ล้อแม็กหลัง 8 ก้าน Pro Arm แบบ Center Lock ขนาด 4.5 x 18 นิ้ว ยางขนาด 150/60-18 และที่ล้อหลังขนาด 18 นิ้วนี่เอง หลายคนมักจึงหาล้อของ Bros, MC28 หรือ NC35 ที่เป็นขนาด 17 นิ้วมาใส่แทนล้อเดิม
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/0aa88dc9-cbr400rr-vfr400r-nc30-16.jpg)
อีกอย่างคือท่านั่งของ VFR400R จะสปอร์ตกว่าทาง CBR400RR ด้วยเบาะนั่งที่สูงและไม่สบายนัก พักเท้าก็สูงกว่า แฮนด์ก้มต่ำ คือจัดท่าพร้อมหมอบ พร้อมให้ไปในโค้งได้เร็วกว่าใคร
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/2c4bd471-cbr400rr-vfr400r-nc30-17.jpg)
ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ ของทั้ง 2 รุ่น ซึ่งรถที่มีอยู่ในไทย และมีทะเบียนถูกต้องจะเป็นรถที่นำเข้ามาเมื่อไม่น่าจะต่ำกว่า 25 ปีที่แล้ว นำเข้ามาเป็นก้อนๆ แล้วมาประกอบในไทย สมบูรณ์บ้างไม่สมบูรณ์บ้างคละกันไป การจะหาซื้อให้มีสภาพสมบูรณ์จึงยากมาก หลายคันผ่านช่วงเวลาการแต่งแบบเปลี่ยนแฟริ่ง จนไม่เหลือเค้าเดิมและปล่อย “เน่าอย่างสงบ” ไปอย่างน่าเสียดาย
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/4dcd9ebb-cbr400rr-vfr400r-nc30-11.jpg)
รถที่ขายกันตามหน้าเพจ สภาพพอใช้ได้หลายๆ คันก็ไม่มีทะเบียน หรือเป็นทะเบียนสวม อันนี้ก็ต้องระวัง เรียกได้ว่าในยุคพ.ศ.นี้ ถ้าใจไม่รัก ไม่มีพักพวกที่เล่นอยู่ หรือเพิ่งเริ่มเล่น Bigbike หารถใหม่ป้ายแดงตามโชว์รูมง่ายกว่า
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/0bf4356d-cbr400rr-vfr400r-nc30-24.jpg)
การแต่งก็นิยมจะเก็บให้เดิมที่สุดครับ โดยเฉพาะชุดสี แฟริ่ง ไปยันน็อตกันเลย แต่ถ้าลงของแต่ง ก็จะเน้นเป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่นแท้ตรงรุ่น ตรงยุค เช่นท่อไอเสีย ชุดเกียร์โยง กันสะบัด ไม่เยอะแต่ดูดีและแพง และส่วนมากรถสภาพที่ว่าก็เป็นรถที่ “สายลึก” จะเก็บไม่ขาย
![](https://storage.googleapis.com/stateless-www-motomotionthaila/2020/03/f838ea05-nc35.jpg)
“เก๋าว่ะ” รอบหน้าผมจะนำรุ่นเด็ดๆ ในช่วงยุค 90 รุ่นไหนมาเล่าให้ฟัง ติดตามครับ จริงๆ มีเรื่องราวตอนไปญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วค้างอยู่ด้วยนะ แต่ตัวรถที่เจอลึกและยากเกิ๊น บางคันก่อนผมจะเกิดอีก มีเวลาจะมาเหลาให้อ่าน คืองานนี้ผมต้องนั่งหาข้อมูลด้วย ต้องใช้เวลา ขอบคุณที่ติดตามครับ ชอบ ใช่ แชร์ได้เลยจ้า
รวมรถแข่งหายาก จากสนามแข่ง Suzuka ประเทศญี่ปุ่น คลิก
คลิปรีวิว ทดสอบ ท่องเที่ยว คลิก