รีวิว HONDA FORZA 750 ปี 2025 ขี่ทริปทางไกล ไปลงขี่ในสนามช้างครั้งแรกในไทย

0
Honda Forza 750

Honda Forza 750 ปี 2025 บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุดที่ถูกนำมาจำหน่ายในประเทศไทย สไตล์สปอร์ตทัวริ่ง ดีไซน์หรูหราผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย มีสมรรถนะที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะที่ครบเครื่องทั้งความสะดวกสบายและความสนุกในการขับขี่

ดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวและทันสมัย

Forza 750 ปี 2025 โฉมล่าสุดนี้ เปิดตัวครั้งแรกในงาน Eicma 2024 และมาเปิดตัวในไทยที่งาน Motor Show 2025 ไทยฮอนด้าจัดให้ทันอกทันใจ หลังจากหยั่งกระแสพาสื่อไปขี่ Forza โฉมเก่าที่อิตาลีเมื่อปลายปี 2023

ผมกับ Forza750 โฉมก่อนหน้า เมื่อครั้งได้ไปลองขี่ที่ประเทศอิตาลี

ซึ่งผมเองก็ไปขี่มาด้วย จากเสียงตอบรับตอนนั้นบ้างก็ว่า “พากันไปขี่ขนาดนี้มาแน่ๆ” บ้างก็บอก “ไม่มาหรอก” หรือ “เมืองนอกขายนานแล้วไทยไม่เอามาหรอก” บลาบลา ไทยฮอนด้ารอการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่และนำมาเปิดตัวในไทยแบบเซอร์ไพร์สตั้งแต่ต้นปี

กับโมเดลใหม่ที่เหมือนกับ Major Change คือเปลี่ยนใหม่หมดทั้งดีไซน์ภายนอก เครื่องยนต์ และระบบต่างๆ สวยทันสมัยและฉลาดมากกว่าเดิม ภายนอกมีดีไซน์เส้นสายที่เฉียบคม แฟริ่งถูกออกแบบใหม่ทั้งคัน ไฟหน้าโปรเจคเตอร์คู่ มีไฟเลี้ยวรวมอยู่ในโคมพร้อมไฟ Day Time Running Light นอกจากนี้วัสดุบางส่วนของแฟริ่งยังผลิตจาก Durabio™ ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิลจากพืช ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ

ฟีเจอร์เด่น

  • หน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว: แสดงข้อมูลครบครัน ปรับพื้นหลังอัตโนมัติกลางวันกลางคืนหรือจะตั้งเอง การแสดงผลมีให้เลือก 3 ธีมหรือ 3 รูปแบบ พร้อมการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Honda RoadSync มีฟังก์ชั่น Navigation หรือระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn
  • Handlebar Switch : สวิตซ์แฮนด์ด้านซ้ายมีปุ่มควบคุมแบบ 4 ทิศทาง สั่งการทำงานต่างๆ ผ่านหน้าจอ TFT
  • Cruise Control: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ สะดวกสบายในการเดินทางไกล
  • Electronic Adjustable Windscreen: หรือชิลด์หน้าปรับไฟฟ้า: ปรับความสูงได้ 120 มม. ปรับได้ที่ปุ่ม 4 ทิศทางบนสวิตซ์แฮนด์ด้านซ้าย ต้องเข้าเมนูในหน้าจอ TFT ก่อน และเมื่อปรับใช้งานที่ระดับใดระดับหนึ่ง เมื่อดับเครื่องชิลด์จะลดระดับลงต่ำสุดเอง และเมื่อสตาร์ทใหม่ขี่ออกไปที่ความเร็ว 5 กม./ชม. ขึ้นไป ชิลด์บังลมจะปรับขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเดิมโดยอัตโนมัติ
ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางที่สวิตซ์แฮนด์ซ้าย
  • ช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะ: ความจุ 22 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้ และใช้โช้คอัพ 2 ตัวสำหรับยกเบาะ
  • ช่องชาร์จ USB-C: ที่แฮนด์เดิลบาร์ สะดวกในการใช้งาน
  • Honda Smart Key System: หรือกุญแจ Keyless แค่พกไว้ไม่ต้องเสียบ จะเปิดรถ ล็อคคอ เติมน้ำมัน เปิดเบาะได้หมด
  • Automatic Turn Signal Canceller: ไฟเลี้ยวปิดเองเป็นการตรวจจับจากเซ็นเซอร์ที่ล้อหน้าและล้อหลัง แม่นยำ เพิ่มความสะดวกปลอดภัย
  • DCT Dual Clutch Transmision : ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะและเกียร์ 6 สปีด ขับโซ่

ระบบอิเล็กทอรนิกส์ โหมดขี่ ครูซคอนโทรล

เริ่มจากคันเร่งไฟฟ้า Throttle by wire ที่ทำงานร่วมกับ Speed Sensor ที่ล้อหน้าล้อหลัง Crank Sensor ส่งมาที่กล่อง ECU อ่านค่าและจะสั่งมอเตอร์ควบคุมการปิดเปิดลิ้นปีกผีเสื้ออีกที โดยมีโหมดขี่ 5 โหมด คือ Sport Standard Rain และ User 2 User

คลัทช์คู่ DCT กับเกียร์ 6 สปีด ขับโซ่

โหมดขี่ 3 โหมดหลักจะทำงานร่วมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่เป็นแพคเกจ คือ P (Engine Power Output) EB (Engine Brake) D (DCT) และ T (Torque Control) ทั้งหมดจะทำงานต่างระดับกันในแต่ละโหมดขี่ ใน User Mode สามารถปรับตั้งระดับค่าการตอบสนองของแต่ละระบบได้เอง รวมถึงเลือกที่ระดับ 0 นั่นคือปิดการทำงานระบบ T (Torque Contron) หรือ Traction Control ได้ด้วย

Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ใช้งานได้ที่ความเร็ว 50 – 160 กม./ชม. และใช้ได้ตั้งแต่เกียร์ 3 – เกียร์ 6 ปลอดภัยเพราะยกเลิกระบบได้อัตโนมัติและรวดเร็วถ้าแตะเบรกหรือยกคันเร่งหรือกดเปลี่ยนเกียร์

ระบบ Dual Clutch Transmision หรือ DCT ที่อัปเกรดใหม่

ระบบส่งกำลังอัตโนมัติอัจฉริยะ เป็นระบบคลัทช์คู่ช่วยในการเปลี่ยนเกียร์กับเกียร์ 6 สปีด โดยคลัทช์ชุดแรก(คลัทช์ตัวนอก) จับที่เกียร์ 1,3,5 คลัทช์ชุดที่ 2(คลัทช์ตัวใน) จับที่เกียร์ 2,4,6 สลับการทำงานไปมาโดยชุดโซลินอยด์และ Pressure Sensor ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ไปดันก้ามปูเพื่อเปลี่ยนเกียร์

ซึ่งระบบ DCT มีการพัฒนามายาวนานมากกว่า 17 ปี ในเจนล่าสุดนี้มีการปรับเรื่องแรงดันน้ำมันใหม่และอื่นๆ ทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล เนียนเรียบ และฉลาดมากกว่าเดิม

เกียร์ DCT นี้เมื่อเราเปิดสวิตซ์รถ หน้าจอ TFT จะยังไม่ขึ้นเกียร์ว่างให้ทันที แต่เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แรงดันน้ำมันเครื่องส่งไปทั่วแล้ว หน้าจอจะขึ้นเกียร์ N หรือเกียร์ว่างพร้อมทำงานให้เรากดที่ D ให้รถเปลี่ยนเกียร์ให้ หรือเลือกที่ M เพื่อเปลี่ยนเกียร์เองที่สวิตซ์แฮนด์ ได้ตามใจชอบหรือตามแต่ละสถานการณ์ได้เลย ซึ่งถ้าเราใช้ D เราก็สามารถแทรกแซงเพิ่มลดเกียร์เองได้ตลอดเวลาด้วย

ทริปทางไกล กทม. – เขาใหญ่ – สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

ทริป Forza 750 ครั้งแรกนี้เป็นการแบ่งกลุ่มสลับกันขี่นะครับ รถ Forza750 ใหม่แกะกล่องที่แม้จะมีมากกว่า 30 คันก็ยังไม่พอกับจำนวนคนที่ร่วมทริป มาว่ากันต่อจากความรู้สึกผม อย่างแรกที่เห็นคือสวยนะ เหมือนที่หลายคนได้เห็นที่งานมอเตอร์โชว์หรือใที่โชว์รูมบิ๊กวิงไปแล้ว เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์สไตล์สปอร์ตทัวริ่งที่ออกแนวหรูพรีเมี่ยม หล่อเลยล่ะ

ท่านั่งก็ดี ไม่เตี้ยหรือสูงไปผมเองสูง 172 ซม. จะจอดจะเข็นทำได้สะดวก ช่วงหว่างขาไม่กว้างนักทำให้ขาไม่อ้าสามารถยืดขาตรงลงมาให้เท้าเหยียบพื้นได้ดี ไม่กางเขย่ง จอ TFT มองถนัด จอเปลี่ยน Background เป็นสีขาวหรือดำอัตโนมัติตามสภาพแสง หรือจะปรับตั้งเองก็ได้ ถ้าเชื่อมต่อมือถือแล้วใช้แอพพลิเคชั่น Honda RoadSync ก็จะใช้ระบบ Navigaแฮนด์อยู่ในตำแหน่งดี ไม่ยกไม่ก้มวางแขนสบายๆ พร้อมบังคับเลี้ยวได้เบาแรง

หลังจากได้ขี่แล้ว ผมประทับใจเรื่องการควบคุมมาก เบาแรง สัมพันธ์กับระบบ DCT ที่ถูกพัฒนามาใหม่ ที่ถูกใจคนที่ได้มาลองขี่ทุกคนผมก็ด้วย คือ DCT เจนใหม่นี้ให้ความเนียนเรียบ ในรอบต่ำก็เนียนไม่กระตุก เลี้ยวกลับรถวงแคบได้ง่าย คล่องตัว Handling ดีงาม ทำให้รู้สึกว่ารถเบาเลยล่ะ

ระบบ Cruise Cotrol ที่ให้มาเข้ากับสไตล์รถแนวสปอร์ตทัวริ่ง เพิ่มความสบายในการเดินทางไกล เงื่อนไขการใช้งานผมเขียนบอกไว้แล้วที่ด้านบนครับ ใช้ง่ายและปลอดภัย

ระบบ DCT เราเลือกจะให้รถเพิ่มหรือลดเกียร์อัตโนมัติที่โหมด D หรือเราจะเป็นคนเพิ่มลดเกียร์เองที่โหมด M ก็ได้ และในโหมด D เราสามารถกดเพิ่มลดเกียร์เองได้เช่นกัน และไม่ว่าจะอยู่โหมดอะไรเกียร์อะไรเมื่อจะจอดรถจะลดเกียร์ลงมาที่เกียร์ 1 ให้เอง รวมถึงเมื่อดับเครื่องและสตาร์ทใหม่รถก็จะกลับมาอยู่ในเกียร์ N หรือเกียร์ว่างให้ตลอด

ช่วงล่างสไตล์สปอร์ตหนึบแน่นดี ยางติดรถจะมี 2 ยี่ห้อนะครับคือ Pirelli และ Bridgestone ซึ่งมาจากโรงงานที่ญี่ปุ่นแล้ว เป็นในเรื่องการดิวกับซัพพลายเออร์ยางทั้ง 2 ยี่ห้อกับโรงงาน ไม่เกี่ยวกับไทยฮอนด้านะครับ เอาว่ายางมียี่ห้อดีทั้งคู่ใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าอยากหล่อและเพิ่มสมรรถนะก็เปลี่ยนยี่ห้อและรุ่นยางตามที่ชอบได้เลย ขนาดยางหน้าคือ 120/70R17 ยางหลัง 160/60R15

เร็ว แรง ช่วงล่างดีงาม

ผมลองทำความเร็วได้ที่ 196 กม./ชม. และช่วงมีลงเนินความเร็วไปที่ 199 กม./ชม. แวบนึง(ผมลงไว้ในคลิปรีวิวในยูทูปกับคลิปแนวตั้งที่ Tiktok) และขี่ยืนพื้นราว 150 – 160 กม./ชม. คือนอกจากขี่สบายแล้วยังทำเวลาได้สบาย มีกำลังเหลือให้เร่งแซงอีกด้วย และอัตราการกินน้ำมันในทริปเฉลี่ยๆ คือ 30 กม./ลิตร ประหยัดมากและไม่ได้ขี่ช้ากันนะ

ชิลด์บังลมปรับไฟฟ้าทันสมัยใช้ปุ่ม 4 ทิศทางที่สวิซต์แฮนด์ซึ่งเป็นปุ่มควบคุมรวมหลายระบบ จึงต้องเข้าไปเลือกในเมนูก่อนซึ่งจะแสดงบนหน้าจอ TFT ทำให้ไม่สะดวกซะทีเดียวถ้าจะปรับไปมาแบบไวๆ แต่ถ้าปรับแล้วเหมาะกับการใช้งานแล้วเมื่อจอดดับเครื่องและสตาร์เพื่อจะขี่ใหม่ชิลด์บังลมจะปรับขึ้นมาในตำแหน่งเดิมอัตโนมัติเมื่อขี่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 5 กม./ชม. ขึ้นไป

หวดในสนามช้างฯ ในสไตล์เรซซิ่ง

ลงสนามช้างฯ กันบ้าง ผมขี่โดยการใช้โหมด M คือเพิ่มและลดเกียร์เอง ขี่วอร์มไม่เร็วนัก 2 รอบหลังจากนั้นก็เพิ่มความเร็ว เครื่องยนต์ทรงพลังเร่งความเร็วออกโค้งได้ดี ช่วงล่างเดิมดีงามเข้าโค้งในความเร็วสูงได้ดีมาก เบรกน่าประทับใจหยุดได้ตามสั่ง ทำให้การขี่บิ๊กสกู๊ตเตอร์ในสนามแข่งขันสนุกมาก

แต่ที่ผมจะพลาดคือการลดและเพิ่มเกียร์เอง การลดเกียร์แบบบรวบเกียร์ก่อนเข้าโค้งทำไม่ได้แบบรถที่มีระบบคลัทช์และเกียร์ปกติ จึงต้องเบรกหนักช่วยลดรอบและความเร็วให้ลดเกียร์เป็นจังหวะได้

และการออกโค้งเข้าเกียร์ผิดก็จะออกจากโค้งช้ากว่าที่ใจคิด แต่ถ้าปรับให้เป็นโหมด D รถเพิ่มและลดเกียร์เองจะทำได้ดีกว่านี้อันนี้เพื่อนสื่อที่ขี่ทดสอบด้วยกันบอกมา ผมไม่มีโอกาสได้ลองใช้เพราะขี่แค่ Session เดียว

Honda Forza 750 ราคา 419,000 บาท

โดยรวมแล้วเป็นรถที่น่าใช้มาก เครื่องยนต์แรง ทน ประหยัด เหมาะกับทุกท่านที่ชอบรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ใช้งานในเมืองสบาย คล่องตัว จะแนวหรูใส่สูทขี่ก็ดูดี ดูลุคเป็นผู้บริหารยุคใหม่สุดเฟี้ยว

จะขี่ออกทริปทางไกลก็คือทางถนัด มี Cruise Control และเป็นรถมีเกียร์ 6 เกียร์แต่จะเรียกว่าออโต้ก็ได้ด้วยเพราะระบบ DCT จะเพิ่มลดเกียร์ได้ให้เราเองหรือเราจะทำเองก็ได้ ขี่ขึ้นเขาลงเขาเล่นเอ็นจิ้นเบรกสบาย เอาไปขี่เล่นแทร็คเดย์ยังได้เลย กับรถที่เป็นโมเดลล่าสุด เจนล่าสุดแบบนี้ ซื้อเหอะคุ้ม

สเปคทางเทคนิค Honda Forza 750 ปี 2025

รายการรายละเอียด
เครื่องยนต์2 สูบเรียง 745 ซีซี SOHC 8 วาล์ว
กำลังสูงสุด58.6 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด69 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบ/นาที
ระบบเกียร์DCT 6 สปีด
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 30 กม./ลิตร (ในวันที่ทดสอบ)
ความจุถังน้ำมัน13.2 ลิตร
น้ำหนักรวม236 กก.
ระบบเบรกดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อม ABS
ระบบกันสะเทือนหน้าโช้คอัพหัวกลับ ขนาด 41 มม.
ระบบกันสะเทือนหลังโช้คเดี่ยว
ล้อหน้า120/70R17
ล้อหลัง160/60R15

คลิปรีวิว 2025 Honda CBR1000RR-R SP โมเดลล่าสุด
บทความรีวิว 2025 CBR1000RRR SP โมเดลล่าสุด

คลิปรีวิว 2020 Honda CBR1000RR-R โมเดลก่อนหน้า
รีวิว 2020 Honda CBR1000RR-R เปลี่ยนโฉม

เปิดตัว 2024 New CBR1000RR-R ที่ ThaiGP 2024
รีวิว Honda CBR650R Eclutch ใช้งานทั่วไป

รีวิว 2024 Honda CB650R E Clutch
คลิป รีวิว 2024 Honda CB650 E Clutch

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่