รีวิว BMW R1300GS Adventure ยักษ์ใหญ่ตัวท็อป กับระบบ ASA ออโตเมติก ที่พร้อมพาไปทุกที่

0
BMW R1300GS Adventure

BMW R1300GS Adventure หรือ R1300GSA แอดเวนเจอร์รุ่นใหญ่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู โฉมใหม่ปี 2025 กับระบบ ASA ที่หลายคนเรียกว่าเกียร์ออโต้ฯ แต่จะใช่หรือเปล่า? พร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งดีไซน์ เครื่องยนต์ และเทคโนโลยี

ผมต้องเกริ่นก่อนว่าเทคโนโลยีมาท่วมคัน อธิบายยาวแน่นอน เอาว่าระบบต่างๆ จะเหมือนใน R1300GS ที่ผมเคยรีวิวไปแล้ว กดอ่านหรือดูคลิปรีวิวได้ที่ Link ด้านล่างเลย

R1300GS ที่ผมเคยทำรีวิวไปแล้ว

แต่เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งรีบเลื่อนลงไป เพราะต่อจากนี้ผมจะเล่าถึงระบบใหม่ ระบบ ASA ใช่เกียร์อัตโนมัติหรือเปล่า? ช่วงล่างที่ต่างจากรุ่น GS โหมดขี่ที่ดีแต่ถูกมองข้าม รวมถึงการทำงานของ Active Cruise Control ที่น่าจะทันสมัยที่สุดในโลกมอเตอร์ไซค์ ณ ปัจจุบันนี้ก็ว่าได้ พร้อมแล้วไปกันเลย

คอนเซ็ปต์ง่ายๆ คือ “แรด”

คอนเซ็ปต์ดีไซน์รุ่น GS Adventure หรือ GSA คือ แรด ส่วนคอนเซ็ปต์รุ่น GS คือม้า เพราะแรดเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่แต่งวิ่งเร็ว ถึก ทน ซึ่งดีไซน์ที่เห็นก็เหมาะกับคอนเซ็ปต์ GSA ไปได้ไกลกว่าด้วยถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร ในรุ่น GS มีขนาด 19 ลิตร และสามารถติดอุปกรณ์เสริมได้มากกว่าเยอะมาก

ออฟชั่นและฟังก์ชั่นที่มีขายก็เยอะกว่า เช่นปี๊บมีเซ็นทรัลล็อค มีไฟในปี๊บหรือกล่องหลัง มีที่ชาร์จ USB ในปี๊บ มีและดีเทลย่อยในแต่ละรุ่นก็จะต่างกัน เช่นในตัว Option 719 จะมีแผ่นยางตรงถังน้ำมันไว้วางแก้ว ส่วนในรุ่น Trophy ตรงจุดนี้จะเป็นแผ่นอลูมิเนียมสำหรับยึดติดกระเป๋าได้ ดีไซน์เพื่อการใช้งานได้สะดวกสบายรอบคัน

BMW R1300GS Adventure ที่ขายในไทยจะมี 4 รุ่นให้เลือกคือ รุ่น Triple Black รุ่น GS Trophy รุ่น Option 719 และ รุ่น Option 719 ASA ทั้ง 4 รุ่นจะต่างกันทั้งออฟชั่นที่มีเฉพาะรุ่นและราคา

  • รุ่น Triple Black ราคา 1,225,000 บาท
  • รุ่น Trophy ราคา 1,225,000 บาท
  • รุ่น Option 719 ราคา 1,275,000 บาท
  • รุ่น Option 719 ที่มีระบบ ASA เกียร์ออโต้ ราคา 1,309,000 บาท

ตัวรถ GSA กับ GS จะเป็นคนละตัวต่างจากโมเดล 1250 ที่เปลี่ยนแค่ถังน้ำมัน แต่ใน 1300 จะใช้แค่เครื่องยนต์กับเมนเฟรมเท่านั้นที่เหมือนกัน อย่างเปลท้ายตัว GSA ก็เป็นเหล็กหล่อ ดีไซน์ไดมอนด์เชฟ เพื่อความนุ่มนวลยืดหยุ่นกว่าเดิม ซ้อนสบายกว่าและรับน้ำหนักได้ดีกว่าที่เป็นอลูมิเนียมในรุ่น GS และที่ด้านท้ายมีการติดตังแร็คที่มีการเดินไฟแล้วสำหรับติดปี๊บหรือกระเป๋าข้างมาจากโรงงาน รองรับการทำงานระบบเซ็นทรัลล็อคของปี๊บ

เครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ 1300 ซีซี 145 ม้า 149 นิวตันเมตร ช่วงล่างเดียวกับ GS ตัว GSA แต่ด้วยน้ำหนักตัวของ GSA ที่ 269 กิโลกรัม หนักกว่ารุ่น GS ถึง 32 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนักที่มากจึงมีค่าสปริงและระยะยุบไม่เท่ากันรวมถึงน้ำมันในระบบโช้คอัพ แต่มีโช้คไฟฟ้าเป็นสแตนดาดเหมือนกัน

ความสูงเบาะเมื่อจอดหรือขี่ช้าจะอยู่ที่ 840 มม.และเมื่อใช้ความเร็วตั้งแต่ 50 กม./ชม. ขึ้นไป เบาะจะปรับสูงขึ้นอัตโนมัติเป็น 870 มม. เพราะมีระบบ Adaptive Vehicle Height Control ที่ปรับขึ้นลงได้เองในระยะ 30 มม. ระบบนี้จะมีไฮดรอลิกที่หัวโช้คยุบและยืดที่จุดนี้ไม่เกี่ยวกับตัวโช้คอัพทั้งหน้าหลัง ดังนั้นไม่ว่าระยะยุบตัวต่ำหรือยืดสูงโช้คอัพก็ทำงานเต็มระบบเช่นเดิม

ระบบ ASA Automated Shift Assistant ต้องบอกว่าไม่ใช่ออโตเมติกซะทีเดียว เพราะคนขี่ยังต้องเข้าเกียร์ 1 อยู่ คือภายในระบบเกียร์และคลัทช์ยังเป็นแบบเดิม ในรุ่นที่มีระบบ ASA จะมีน้ำหนักต่างจากรุ่นเกียร์ปกติเพียง 2 กิโลกรัมและไม่มีอุปกรณ์อื่นมายึดติดที่เครื่องยนต์ให้เห็นจากภายนอก สังเกตุได้แค่มีหรือไม่มีมือคลัทช์

ส่วนที่เพิ่มมาที่ทำหน้าที่แทนมือ(บีบคลัทช์)และเท้า(เตะเกียร์) นั่นคือชุดควบคุมมีการทำงาน 2 ส่วนคือการบีบคลัทช์และเตะเกียร์ ส่วนแรกทำหน้าที่บีบคลัทช์โดยจะหมุนรอบตัวเองพอถึงจุดที่โปรแกรมไว้

ซึ่งจะมีกล่อง TCU (Transmission Control Unit) รับสัญญานจากคันเร่ง รอบเครื่อง ความเร็ว รวมถึง Riding Mode องศารถ(ระบบจะรู้ว่ารถเอียงอยู่จะไม่เพิ่มหรือลดเกียร์) และอื่นๆ ในการตัดสินและส่งคำสั่งไปยังชุดมอเตอร์และไฮดรอลิกกดคลัทช์ และชุดมอเตอร์จะหมุนตามราวเกียร์เพื่อเตะเกียร์ทั้งเพิ่มและลดเกียร์ และยังสามารถลดเกียร์แบบรวบเกียร์ได้

ระบบ ASA สามารถเลือกการทำงานได้ 2 โหมดคือ M กับ D ถ้าเราจะเพิ่มลดเกียร์เอง(ไม่ต้องบีบคลัทช์)ใช้โหมด M ฟีลลิ่งจะคล้าย Quick Shifter แต่ถ้าให้ระบบเพิ่มลดเกียร์เองใช้โหมด D ฟีลลิ่งการเปลี่ยนเกียร์จะเหมือนเรากำคลัทช์แล้วเตะเกียร์ด้วยเพราะการทำงานของมอเตอร์ภายในตามที่บอกไปก่อนหน้า

และในโหมด D นี้คนขี่สามารถเพิ่มหรือลดเกียร์เองได้ตลอด ถ้ารู้สึกว่าเกียร์ที่รถใช้อยู่ไม่โอเคกับการใช้งานขณะนั้น เช่นเมื่อเราขี่ลงเขาแต่ระบบยังอยู่ในเกียร์ที่สูงกว่าที่เราต้องการเราก็ตบหรือเชนเกียร์ลงเองได้ตลอดเวลา การเพิ่มเกียร์ก็เช่นกัน

ระบบ ASA จะมีเกียร์ว่างขั้นอยู่ในทุกเกียร์ เมื่อรถล้มหรือรถดับขณะวิ่งอยู่ไม่ว่าจะค้างอยู่ที่เกียร์อะไรระบบจะเข้าที่เกียร์ N ทันที รถจะยังไหลไปที่ปลอดภัยได้ แต่เมื่อเราขึ้นเนินชันรถดับ(ซึ่งคงไม่ดับ)ระบบจะคาที่เกียร์ P ให้ หรือเรากดสวิตซ์ Off ดับเครื่องระบบก็จะคาที่เกียร์ 1 รถจะไม่ไหล

เมื่อจอดทุกครั้งรถจะอยู่ที่เกียร์ P (Park) เหมือนรถยนต์ เข็นไม่ได้ ปลดเป็นเกียร์ว่างไม่ได้ เมื่อเราเปิดสวิตซ์รถจึงจะสามารถเข้าเกียร์ว่างได้ และเมื่อจะสตาร์ท เราก็ต้องกำเบรกและสตาร์ทรถก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างให้เช่นกัน และเมื่อเราจอดแล้วจะให้เป็นเกียร์ว่าง N มี 3 วิธีคือ กำเบรกหน้ากดปุ่มสตาร์ท , กำเบรกกดปุ่ม ASA D/M และ เหยียบที่ขาเกียร์ค้างไว้ประมาณ 1 วินาที

และจะเริ่มขี่รถ ให้กำเบรกและสตาร์ทเครื่องยนต์ รถจะอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง N ให้เราเตะเกียร์ลงคือกดลงเกียร์ 1 หน้าจอจะแจ้งเป็น M1 เป็นปกติทุกครั้งที่จะออกตัว และถ้าคนขี่จะเปลี่ยนเกียร์เองก็เลือกที่โหมด M ต่อไป หรือจะให้รถเปลี่ยนเกียร์ให้ก็เลือกที่โหมด D จะเลือกโหมด M หรือ D กดเลือกปุ่มตรงสวิตซ์แฮนด์ด้านซ้าย

ขาเกียร์ที่ยังมีให้ใช้ในรุ่นที่มีระบบ ASA เราสามารถตบลงหรืองัดขึ้นได้เหมือนรถปกติ แต่จะเป็นการเตะไปที่เซ็นเซอร์ ไม่ได้ไปยังแกนเกียร์บ๊อกแบบรถปกติ แต่ BMW ออกแบบให้มีลูกเบี้ยวให้การเตะเกียร์ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลดเกียร์ยังคงฟีลลิ่งเข้าเกียร์แบบเดิม

และเมื่ออยู่ในความเร็วต่ำมากๆ ระบบจะลดเกียร์ให้อยู่ในเกียร์ 2 ไม่ลงถึง 1 เพื่อความนุ่มนวล แต่เราก็ตบลงเป็นเกียร์ 1 เองได้ตามฟีลลิ่ง เมื่อจะออกตัวก็สามารถใช้เกียร์ 2 เพื่อออกตัวได้เช่นกัน และระบบ ASA ยังยกล้อได้อยู่ ไม่ต่างรถระบบเกียร์ปกติ ชุดเกียร์ยังชุดเดียวกัน กระแทกคันเร่งก็ขึ้นแล้ว

Active Cruise Control (ACC) ใน R1300GSA

ACC หรือ Active Cruise Control ของ BMW จะมีความพิเศษและทันสมัยเหนือใคร นอกจากระบบจะควบคุมความเร็วอัตโนมัติแล้วยังแปรผันตามวัตถุที่เรดาร์จับอยู่ด้านหน้าหรือขี่ตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติ 

ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบกันชนด้านหน้า Front Collision Warning (FCW) กับระบบ Full Integral ABS Pro เมื่อรถคันหน้าเบรก รถเราจะลดความเร็วและเบรกให้เองเป็นจังหวะ เบรกให้คนขี่ควบคุมรถได้โดยไม่เสียการทรงตัว และเมื่อรถคันหน้าเร่งไปออกต่อรถเราก็จะเร่งคันเร่งตามไป ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ

ระบบ ACC จะทำงานร่วมกับ IMU (Inertial Measurement Unit) เซ็นเซอร์วัดมุมเอียงของตัวรถใน 6 ทิศทาง ทั้งการเอียงตัวรถ, การเร่ง, การเบรก และการเข้าโค้ง ทำให้การปรับระดับความเร็วจะสมูท และขณะเข้าโค้งระบบจะไม่ลด/เพิ่มความเร็วแบบกะทันหัน ช่วยให้การชะลอและเร่งเป็นธรรมชาติ ไม่กระชาก

7 Riding Mode

มี 7 โหมดขับขี่คือ Road, Rain, Eco, Dynamic, Enduro และ Dynamic Pro กับ Enduro Pro ซึ่งในโหมด Dynamic Pro ระบบ ABS ที่ล้อหลังจะไม่ทำงาน เหมือนกับในโหมด Enduro Pro เป็นค่าที่ตั้งมาเป็นสแตนดาร์ด แต่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเปิดเองได้ในระบบ แต่ในครั้งนี้ผมจะพูดถึง โหมด Rain กับ Eco เพราะเป็น 2 โหมดที่ผมลองขี่ในครั้งนี้

เริ่มจากโหมด Rian ซี่งในขณะทดลองขี่ก็ได้ลุยหนักจริงๆ ด้วย โหมดนี้จะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่ทันสมัยเข้ามาช่วยแบบเต็มพิกัด ทำให้การขี่นุ่นนวลและเบาแรงมาก จะเร่งจะเบรกก็ทำได้อย่างมันใจ รถมีความเสถียรสูงมาก แม้แต่ขี่ไปตามโค้งเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 ลัดเลาะเขื่อนศรีนครินทร์กลางสายฝนยังใช้ความเร็วได้พร้อมรู้สึกถึงความปลอดภัย เป็นโหมดที่ดีและคุ้มค่ามากเพราะเทคโนโลยีต่างๆ จะช่วยกันทำงานให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในขณะขี่

โหมด ECO โหมดนี้คันเร่งจะช้ากว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับโหมด Rain หรือโหมดอื่นๆ การตอบสนองของเครื่องยนต์ก็นุ่มนวลเบาแรง ขี่แบบเพลินๆ ได้เลย เหมือนลอยไป โหมดนี้ให้การประหยัดน้ำมันสูงมาก แม้ถังน้ำมันจะจุถึง 30 ลิตรแต่ถ้าเราขี่เพลินหลายร้อยกิโลเมตรหรือกะระยะเข้าปั้มน้ำมันผิด กดใช้โหมด ECO ไปได้อีกนับร้อยกิโลเมตรเลยทีเดียว ไม่กินข้าวลิงข้างทางแน่นอน

บทความรีวิวนี้ผมคงพูดถึงระบบ ASA เป็นหลัก ในระบบอื่นจะมีเหมือนกับ R1300GS ที่ผมเคยทำรีวิวไปแล้ว อีกอย่างคือกำลังหรือความแรงของเครื่องยนต์สเปครุ่น GSA จะเหมือน GS ทุกอย่าง แต่ด้วยน้ำหนักรถที่มากกว่ากันถึง 32 กิโลกรัม ทำให้ใน GSA ค่อนข้างนุ่มนวลกว่าหน่อยนึง และเน้นการเดินทางไกลบนทางดำเพราะยางติดรถก็เป็นยางถนน 100% แต่ถ้าถามหาความคล่องตัวทั้งการใช้ในเมือง หรือจะเอาไปลุย Off Road เยอะๆ GS จะตอบโจทย์กว่า


สเปค BMW R 1300 GS Adventure ปี 2025

รายการรายละเอียด
เครื่องยนต์2 สูบนอน (Boxer), DOHC, 4 วาล์ว/สูบ, ระบายความร้อนด้วยอากาศ + ของเหลว
ปริมาตรกระบอกสูบ1,300 ซีซี
แรงม้า145 แรงม้า @ 7,750 รอบ/นาที
แรงบิด149 นิวตันเมตร @ 6,500 รอบ/นาที
ระบบเกียร์เกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อมระบบ Shift Assistant Pro (เปลี่ยนเกียร์ไม่ต้องบีบคลัตช์) และรุ่นที่เป็นระบบ ASA
ระบบกันสะเทือนหน้าEVO Telelever (ใหม่) ปรับไฟฟ้าได้
ระบบกันสะเทือนหลังEVO Paralever พร้อมระบบ Dynamic Suspension Adjustment (DSA)
ระบบเบรกดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อม ABS Pro
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ASA, Riding Modes Pro, Hill Start Control, Traction Control, Cornering ABS, Active Cruise Control , etc.
น้ำหนักรถ269 กิโลกรัม (รวมของเหลว)
ความจุถังน้ำมัน30 ลิตร
หน้าจอแสดงผลTFT 6.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน BMW ConnectedRide

บทความรีวิว R 1300 GS
คลิปรีวิว R 1300 GS

คลิปรีวิว 2023 New BMW S1000RR
บทความรีวิว New BMW1000RR

คลิปรีวิว BMW R1250RT Option 719
รีวิว R1250RT
คลิปรีวิว R18 Transcontinental
บทความรีวิว R18 Transcontinental
บทความรีวิว BMW R18 First Edition

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่