สวัสดีครับ ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้รีวิว CB650R แต่อย่างใด หลักๆ เป็นการขี่รถเที่ยวในเวลาอันจำกัด 2 วัน 1 คืน โดยตั้งงบไว้สูงซักนิด(สำหรับผม) เพราะอยากจะกินดีพักดี ขี่มอเตอร์ไซค์หล่อๆ เที่ยว ทำไมต้องนอนเต็นท์เสมอไปล่ะ นอนสบายๆ กินเต็มที่ เพราะเราขี่รถมาเที่ยวมาพักผ่อนยังไงล่ะ ขอสบายๆ หน่อย
หลังจากมาเปิดเน็ตดูว่าที่ไหนที่น่าไป โดยไม่ไกลจาก กทม. มากนัก จิ้มไปจิ้มมาหวยก็ออกที่ จ.ราชบุรี เมืองรอง จ.ทางผ่านของใครหลายๆ คน โดยผมกำหนดอีกว่าเที่ยวระหว่างเดินทางและเที่ยวในเมืองก็พอ อย่าง “อ.สวนผึ้ง” ยอดฮิต เราก็ไม่ไปอ่ะนะ รวมถึง “วัด” ด้วย ทำไมไปเที่ยวต้องเข้าแต่วัดล่ะ? (แต่สุดท้ายก็มีโฉบไปนิดนึง อิอิ)
อีกเหตุผลคือ จ.ราชบุรี เป็นบ้านของพี่ต้อม พี่ที่ผมนับถือเป็นพี่ชายอีกคนนึง คือถ้าขาดเหลืออะไรจะได้พึ่งพาอาศัยไง แฮร่ และยังมีเพื่อนดื่มในยามค่ำคืนอีกด้วย แจ่มเลย
ผมออกเดินทางสายๆ ของวันพุธที่ 22 พฤษถาคมที่ผ่านมา เพราะได้คิวรับรถ Honda CB650R ในเช้าวันเดียวกันนั่นเอง ประมาณ 11 โมงผมก็พร้อมเดินทางออกจากบ้านย่านลาดพร้าว 71 โดยใช้เส้นทาง รัตนาธิเบศร์ – บรมราชนนี นครชัยศรี นครปฐม เข้าราชบุรี
ผมใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ช้านะ ไม่นานก็ถึงนครปฐม วันนี้ที่เดินทางอากาศค่อนข้างเป็นใจ ไม่มีแดด มีแต่เมฆที่บดบังความร้อนจากดวงอาทิตย์ให้อย่างเป็นใจ
ผมเลี้ยวขวาเข้าไปในเมือง เพื่อหามื้อกลางวันก็มาเจอกับ “ก๋วยเตี๋ยวโอ่งราชบุรี” เขามีขายเป็นชามๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวทั่วๆไปนะครับ แต่เพื่อภาพ(หรือหิว) ผมเลยสั่งเป็นชุดใหญ่มาซะเลย
ก็จะมีเส้นหลายแบบให้เลือกกิน รวมถึงก๋วยเตี๋ยวชามโต ซึ่งชุดนี้กินได้ 4 คนสบายๆ
อิ่มท้องก็จริง แต่ผมค่อนข้างติดกาแฟโดยเฉพาะวันทำงานหรือต้องเดินทางก็ขาดไม่ค่อยได้ เสิร์ซดูก็เลยเจอร้านกาแฟระหว่างเส้นทาง แวะสิครับรออะไร แต่ร้านอยู่ฝั่งขาเข้าต้องกลับรถนิดหน่อย
บรรยากาศในร้านค่อนข้างดีเลยครับ โปร่ง(แอร์)เย็นสบาย กาแฟและขนมมก็อร่อยใช้ได้เช่นกัน ถ้ามาเป็นกลุ่มรองรับได้สบายๆ ที่จอดรถก็เหลือเฟือ ผมนั่งพักหลบอากาศร้อนที่นี่ร่วมๆ ชั่วโมงเลยล่ะ
ออกจากร้านกลับรถเดินทางกันต่อ ด้วยความที่ขี่ไม่เร็วสายตาจึงไปเห็นป้าย “Octospyder” เคยเห็นผ่านตาในอินเตอร์เน็ต ว่าเป็นร้านอาหารที่มีดีไซน์ของตัวอาคารเหมือนปลาหมึกผสมแมงมุม(ตามชื่อเขานั่นเลย) เลี้ยวเข้าไปดูกันหน่อย
เป็นตัวอาคารที่ออกแบบให้มีแขนขาเหมือนแมงมุม(หรือปลาหมึก)ตั้งอยู่ในน้ำ ใหญ่โต สวยแปลกตา นี่ถ้ามาถ่ายรูปตอนกลางคืนแบบเปิดไฟเต็มๆ ก็คงจะสวยอีกแบบเพราะเป็นกระจกรอบเลย และเห็นว่าอาหารที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่พึ่งจะอิ่มมาไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ
ผมมุ่งหน้าต่อไปยังตัว จ.ราชบุรี ด้วยเวลาที่เราเดินทางแบบชิลชิล ไม่ฟิกอะไรมาก จึงเข้ามาถึงเอาเกือบๆ 4 โมงเย็น ตรงเข้าไปเช็คอินที่พักกันก่อนเลยที่ Space 59 ซึ่งผมได้โทรจองล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
ภายในห้องพัก ตอนแรกจองห้องเตียงเดี่ยวแต่เต็ม!? ครับวันธรรมดาแต่ห้องก็เต็ม ซึ่งที่ Space 59 นี่ผมคิดว่าน่าจะเป็นโรงแรมที่ดูสวย ดูดีและสะดวกที่สุดแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรีแล้วล่ะครับ ใครมาก็เข้าพัก หลังจากเก็บของ ล้างหน้าล้างตา เราก็ออกไปขี่รถเล่นกันต่อ ส่วนตัวโรงแรม เดี๋ยวถ่ายรูปตอนกลางคืนให้ดู สวยจริง
ขี่รถวนๆ มานั่งเล่นที่ หอศิลป์ เถ้าฮงไถ่ ดีคุ้น (Tao Hong Tai D Kunst) บ้านไทยทรงมะนิลา ตั้งอยู่ติดแม่น้ำแม่กลองเลย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 เป็นจุดนัดพบของศิลปะร่วมสมัย
และยังเป็นร้านขายเครื่องดื่มและเบอเกอรี่ในตัว ราคาเครื่องดื่มก็อยู่ประมาณ 40 – 90 บาท
Honda CB650R ไฟกลมนี่เข้ากับหลายๆ อย่างจริง ที่สำคัญคือหล่อมาก
ฝนเริ่มตั้งเค้ามา หาร้านฝากท้องมื้อเย็นกันดีกว่า ผมนั้นอยากินข้าวหน้าปลาไหลมาก(คือดูคลิปญี่ปุ่นซะเยอะไง เลยหลอนมาถึงกระเพาะ) ร้าน “Mainichi 365” หรือ “ไมนิจิ 365” ติดถนนใหญ่ ใกล้ที่พักเราด้วยจัดเลย
การบริการดีซะด้วยครับ แถมอาหารก็สด อร่อย ใช้ได้เลย คนเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย แสดงว่าอร่อยจริง และก็อร่อยจริงๆ นั่นแหล่ะ เบ็ดเสร็จค่าเสียหายมื้อนี้อยู่ที่ 900 บาทนิดๆ สำหรับ 3 คน
หลังจากอิ่มมื้อเย็นด้วยอาหารญี่ปุ่นสมใจ เราก็จะไปเดินที่ถนนคนเดิน “ตลาดโคยกี๊” แต่เป็นวันธรรมดาเขาไม่มีครับ แถมฝนตกด้วย กลับที่พักสิครับ
มาดูบรรยากาศภายในโรงแรม Space 59 กันบ้าง แต่ละชั้นจะแต่งไม่เหมือนกันกัน สวยดีครับ
โรงแรมมี 6 ชั้น รูปสุดท้ายนี่มือสั่นแล้ว ภาพจึงสั่นๆ ไป อยากรู้ว่าสวยบรรยากาศดีแค่ไหน ต้องมาดูเองครับ
เช้าวันใหม่เราไปกินกาแฟกันที่ “อาตี๋โกปี๊” อยู่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี
ว่าจะกินเบาๆ สั่งขาหมูหมั่นโถซะงั้น
ติ่มซำก็มา
ค่ากาแฟและอาหารเช้าที่นี่ทั้งหมด 397 บาท
เช้าๆ งี้ ขี่รถเที่ยวกันต่อสิ
ว่าจะไม่เข้าวัด ก็เข้าวัดจนได้ ที่นี่คือวัดพระคริสตหฤทัย มีโบสถ์สวยแวะถ่ายรูปซะหน่อย
เราไม่ได้เข้าไปในโบสถ์ เพราะข้างในมีงานของโรงเรียนอยู่ จึงถ่ายภาพแต่ด้านนอกแล้วก็ไปกันต่อ!
มาถ่ายรูปเล่นที่ “โรงงานเซรามิคเถ้าฮงไถ่”
จากโรงงานทำโอ่งมังกร ก็ปรับตัวเป็นโรงงานทำเซรามิคแนวอาร์ตที่มีชื่ออันดับต้นๆ ของเมืองไทย การปรับตัวเกิดขึ้นทุกวงการและทุกธุรกิจ
มาพูดถึง CB650R กันหน่อย หลักๆ คือการกลับมาใช้ไฟหน้ากลมแบบดั้งเดิมในรถตระกูล CB ที่ฮิตมากในไทยคงหนีไม่พ้น CB400 Super Four นั่นล่ะ แต่นี่คือการดีไซน์ใหม่ไม่ใช่แค่รถ Naked Bike ร่างเปลือยแต่นี่คือ Neo Sport Cafe
โฉมใหม่นี้จะมีโช้คอัพหน้าแบบ Upside down ขนาด 41 มม. คาลิปเปอร์เบรก Nissin แบบเรเดียลเม้าท์ พร้อม ABS ทั้งหน้าและหลัง มีระบบแรมแอร์ดักอากาศเข้าสู่หม้อกรองอากาศเต็มๆ ทำให้มีม้าล่ำๆ ไว้ใช้งานถึง 94 ตัว กับแรงบิดที่ 64 นิวตันเมตร
มีระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) หรือ Traction Control นั่นแหล่ะ ป้องกันการ Over Spin ของล้อหลัง และจัดการให้ล้อหน้าและล้อหลังหมุนหรือทำงานสัมพันธ์กัน สามารถเลือกเปิดหรือปิดการทำงานได้
พร้อมกับชุดคลัทช์ใหม่ที่มีระบบ Slipper Clutch เข้ามาช่วย ทำให้การเชนเกียร์ลงในรอบสูงๆ ล้อไม่มีอาการล็อค หลักการก็ตามชื่อเลย Slipper หรือ “ลื่น” คือตัวคลัทช์จะมีการขยับตัวคล้ายอาการคลัทช์ลื่น เพื่อช่วยผ่อนแรงกระทำของเอนจินเบรกที่ส่งมาก่อนจะส่งไปยังล้อหลัง ไม่ให้ล้อหลังล็อคตายจนเกิดอันตราย และยังส่งผลให้นุ่มนิ้วเวลาบีบคลัทช์ด้วย
กลับจาก โรงงานเซรามิคเถ้าฮงไถ่ เราก็เข้าไปอาบน้ำ เก็บของ และเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม เพื่อเดินทางกลับ แต่ทริปนี้มีแต่กิน กิน และ กิน ก็ต้องแวะกินมื้อกลางวันกันก่อนสิที่ “บะหมี่ก๋ำเช้ง” เจ้าดังของราชบุรี
รูปน่ากิน ของจริงก็อร่อย โพสหน้าเฟซบุ๊คตอนดึกๆ มีเคือง
ระหว่างทางขากลับเข้า กทม. แวะกินกาแฟขนมหวานกันต่อที่ Riva Floating Cafe จ.นครปฐม
คาเฟ่ลอยน้ำ ที่นี่เป็นโรงแรมที่พักด้วย และถ้ามามอเตอร์ไซค์ที่จอดจะไกลหน่อย และเดินหอบเสื้อขี่รถ หมวกกันน็อค จะเหมือนเป็นคนประหลาดๆ ในสายตาคนอื่นๆ ไป ไม่ค่อยชิลเลย เห้อ สำหรับผมครั้งเดียวพอดีกว่า รีบกินรีบกลับ
กลับมาถึงบ้านย่านลาดพร้าว 71 แบบสบายๆ ไม่รีบ ไม่เพลีย อาบน้ำปะแป้ง ขี่ออกไปดูหนัง John Wick 3 ที่เพิ่งเข้าในช่วงสัปดาห์นั้นกันต่อ…รูปถ่ายจากล้องผมไม่รู้เซฟไว้ไหน จึงขอเอารูปที่แคปจาก VDO มาใช้ก่อน ถ้าเจอจะมาเปลี่ยนให้ดูใหม่ครับ
กินต่อ ระหว่างรอรอบหนัง กินตลอดทริป
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวม 3 คน 2 วัน 1 คืน
- ค่าน้ำมัน 440 บาท
- ก๋วยเตี๋ยวโอ่ง 199 บาท
- กาแฟขนมเค้กที่ Puffin 185 บาท
- ที่พักคืนละ 700 บาท / ห้อง
- นมเย็นที่ หอศิลป์ 175 บาท
- มื้อเย็นอาหารญี่ปุ่น 900 บาท
- เบียร์กระป๋อง 7-11 และ ที่โรงแรม รวม 460 บาท
- กาแฟและอาหารเช้าที่ อาตี๋โกปี๊ 397 บาท
- บะหมี่ก๋ำเช้ง 150 บาท
- กาแฟขนมที่ Riva 350 บาท
- ดูหนัง 120 บาท (ใช้สิทธิ์ AIS)
- Auntie Anne’s ระหว่างรอดูหนัง 119 บาท
รวมประมาณ 4,195 บาท
ส่วน All New Honda CB650R ราคา 305,000 บาท ซื้อได้ที่ Honda Bigwing ทั่วประเทศครับ
ติดตามคลิปของทริปนี้เร็วๆ นี้ได้ที่นี่ คลิกเลย
รีวิว Honda CB1000R และ CB650R คลิกตรงนี้
ขอบคุณ : บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และ Honda Bigwing กรุงเทพ
